กระบี่-เจ้าของสถานบันเทิงชื่อดังย่านอ่าวนาง เห็นด้วยที่เปิดรับนทท.แต่ไม่เห็นด้วยที่จะเปิดประเทศรับต่างชาติเดินทางท่องเที่ยว หวั่นเร่งเปิดประเทศจะทำภาคธุรกิจล้มอีกรอบ แนะรัฐบาลทดลองเปิดให้คนในประเทศท่องเที่ยวก่อนดีไหม ก่อนเปิดประเทศให้ต่างชาติเขามาท่องเที่ยว
วันที่ 18 ต.ค.64 ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยให้ชาวต่างชาติจาก 10 ประเทศ เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ ภายใต้มาตรการป้องกันของไทย และอาจจะอนุญาตให้ธุรกิจสถานบันเทิง กลับมาเปิดได้อีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค.ที่จะถึง ทำให้เกิดเสียงสะท้อนจากภาคประชาชนทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยจำนวนมาก โดยที่หาดอ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 บรรดาสถานประกอบการ สถานบันเทิง ในพื้นที่อ่าวนาง ถูกปิดมานานกว่า 1 ปี จนผู้ประกอบการหลายรายต้องเลิกกิจการ บางรายต้องหยุดกิจการโดยไม่มีรายได้มานานนับปี แต่ภายหลังมีการประกาศเปิดประเทศอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวจึงไปสอบถามเจ้าของสถานประกอบการในพื้นที่
น.ส.เมตตา เรืองชุม หนึ่งในผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิงในหาดอ่าวนาง กล่าวว่า หากถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการเปิดประเทศ แน่นอนว่าตน และผู้ประกอบการเห็นด้วย เพราะการมี นทท.เป็นแหล่งรายได้หลัก แต่สิ่งที่ยังเป็นห่วงกังวลคือ หากเปิดให้ นทท.ต่างชาติเข้ามาตอนนี้ จะมั่นใจได้แค่ไหนว่าเราจะคุมการระบาดได้ ไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ใหญ่ ๆ ขึ้นมาอีก ในมุมมองส่วนตัว มองว่ารัฐบาลน่าจะทดลองเปิดให้ท่องเที่ยวกันเองภายในประเทศก่อนจะดีหรือไม่ เพื่อทดสอบระบบการรับมือว่าหากมีการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ เราจะรับมือกันได้ดีแค่ไหน ซึ่งการเปิดภายในประเทศ ต้องเปิดให้เต็มรูปแบบ อันแรกคือสถานศึกษา ให้ผู้คนได้ทดลองใช้ชีวิตในวิถีใหม่ก่อนว่าจะปรับตัวกันได้แค่ไหน และรับมือหากเกิดวิกฤติอีกรอบได้แค่ไหน ที่สำคัญระหว่างนี้ต้องเร่งนำวัคซีนมาฉีดให้ทั่วถึงโดยเร็วควบคู่ไปด้วย
น.ส.เมตตา กล่าวต่อว่า ในส่วนของสถานบันเทิง รัฐต้องเข้าใจด้วยว่า การจะให้ผู้ประกอบการเปิดได้ ต้องสร้างความมั่นใจให้ได้ว่าเปิดขึ้นมาแล้วต้องอยู่ได้จริง ๆ ไม่ใช่ให้เปิดได้ระยะสั้น ๆ พอเกิดการระบาดก็มาสั่งปิดกันอีก เพราะผู้ประกอบการทุกรายมีต้นทุนสูงในการกลับมาเปิดธุรกิจอีกครั้ง ตั้งแต่ค่าใช้จ่ายในการเตรียมสถานที่ ค่าต้นทุนวัตถุดิบ ต้นทุนสินค้า ที่ต้องซื้อมาเข้าในระบบ เมื่อลงทุนไปแล้วต้องมั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกสั่งปิดอีก เพราะหากต้องล้มกันอีกเพราะถูกสั่งปิดรอบนี้ จะเป็นการล้มที่หนักมากแล้ว ตอนนี้ทุกคนก็เจ็บปวดมามากพอแล้ว จึงอยากให้รัฐพิจารณาให้รอบคอบถึงการเปิดประเทศ และต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการให้ได้ด้วย.
