นครพนม – ไฟไหม้รับอรุณวอด 5 หลัง น้ำตาร่วงเงินสด 1 ล้าน ทองคำ 10 บาทละลายหายไปกับเปลวเพลิง จังหวัดเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
วันที่ 20 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 05.00 น. ร.ต.ท.วายุพงษ์ ปาประโม พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า เกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือราษฎร หมู่บ้านเหล่า หมู่ที่ 4 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม ขณะนี้เปลวไฟได้ลามลามไปบ้านที่อยู่ใกล้กันอีกหลายหลัง จึงประสานรถดับเพลิงในพื้นที่ใกล้เคียงร่วม 10 คัน เร่งเดินทางไปยังที่เกิดเหตุซึ่งต้นเพลิงเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ อยู่ในชุมชนหนาแน่น และมีสภาพเก่าจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โดยเปลวไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และลุกลามไปถึง 5 หลัง เจ้าหน้าเร่งระดมฉีดสกัดเพลิงนานนับชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัดได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองพิสูจน์หลักฐานจึงเข้าเก็บหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุของไฟไหม้ครั้งนี้
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าก่อนเกิดเหตุเกิดเสียงระเบิดในบ้านเลขที่ 46/2 หมู่ 4 บ้านเหล่า ซึ่งเป็นบ้านของนางคำบู่ คำลือ ดดยขณะเกิดเหตุเจ้าของบ้านออกไปกรีดยางในสวน ชาวบ้านที่อยู่ละแวกดังกล่าวจึงช่วยกันหาน้ำมาดับกันจ้าละหวั่น แต่ไม่สามารถสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ได้ ก่อนจะประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ทั้งนี้ นางสุมาลี สมรฤทธิ์ อายุ 61 ปี ที่มีบ้านอยู่ติดกับบ้านต้นเพลิงเล่าว่าขณะกำลังเตรียมหุงหาอาหารอยู่ในครัว ได้ยินเสียงคนตะโกนร้องว่าไฟไหม้ๆ จึงเรียกลูกสาวและหลานที่นอนหลับอยู่บนชั้นสอง รีบลงมาหาน้ำดับไฟแต่เปลวไฟลุกโหมแรงมาก ตนต้านทานความร้อนไม่ไหว รีบดึงลูกและหลานออกจากบ้านโดยไม่ได้หยิบของมีค่าติดมือมาแม้แต่ชิ้นเดียว ซึ่งมีเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท ทองรูปพรรณหนัก 10 บาท ที่เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าได้มอดไหม้ไปกับกองเพลิงด้วย
หลังเพลิงสงบนายสุบิน สมรฤทธิ์ นายกเทศบาลตำบลนาคำ ร่วมฝ่ายปกครอง ทหาร ดำรวจ ได้นำถุงยังชีพ น้ำดื่ม ฯลฯ ไปมอบให้กับผู้ประสบอัคคีภัยและรายงานให้ทางจังหวัดทราบ พร้อมเปิดรับบริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภค สาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องรอการพิสูจนืหลักฐานที่ชัดเจนอีกครั้ง
