ที่ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ใกล้เคียงวัดโพธิมงคล ยังประสบอุทกภัย น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วม มีระดับสูงประมาณ 20-80 เซนติเมตร ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน อย่างเช่นที่บ้านของ นางบานชื่น อยู่คอน วัย 66 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ตำบลบางหลวง มีอาชีพหลักทำนา และอาชีพเสริมเพาะเม็ดตาลให้งอกแล้วผ่าจาวตาลขาย ซึ่งหลังจากน้ำท่วมรอบ 2 เก็บเม็ดตาลหนีน้ำไม่ทันเสียหายไปกว่า 10,000 บาท อีกทั้งสุนัขและแมวนับ 10 ตัวที่ต้องอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างลำบากและเกิดความเครียดอีกด้วย
นางบานชื่น อยู่คอน เล่าว่า น้ำท่วมครั้งนี้เป็นรอบที่ 2 ครั้งแรกน้ำจะค่อยๆ ขึ้นเราเก็บของทัน แต่ครั้งที่สอง น้ำขึ้นเร็วมากเก็บของไม่ทันเกิดความเสียหาย อย่างเช่นเม็ดตาลที่กำลังเริ่มงอกจะสามารถผ่าขายได้ แต่เก็บหนีน้ำไม่ทันเสียหายมูลค่ากว่าหมื่นบาท โดยเก็บขึ้นมาได้เพียงบางส่วน คิดว่าน้ำไม่มาแล้วเพราะท่วมครั้งแรกน้ำแห้งไปแล้วจึงไม่ได้เก็บขึ้นที่สูง สำหรับการเดินทางไปไหนมาไหนก็ลำบากที่บ้านไม่มีห้องน้ำบนเรือนเวลาจะเข้าห้องน้ำต้องพายเรือไปที่วัด ซึ่งอยู่ห่างบ้านประมาณ 100 เมตร
นอกจากนี้ ยังมีภาระเลี้ยงสุนัข 6 ตัว แมว 4 ตัว ต้องอยู่กันอย่างลำบาก เวลาลงมาให้อาหารสุนัขและแมวใต้ถุนบ้านต้องสวมถุงที่ขาทั้ง 2 ข้างเพื่อป้องกันปลิงเกาะ บริเวณนี้ปลิงชุมมาก สุนัขบางตัวอึฉี่ในบ้านต้องคอยขนไปทิ้ง บางตัวว่ายน้ำออกไปข้างนอกได้ น้ำท่วมแบบนี้ เกิดความเครียดทั้งคนและสัตว์ อยากให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว
สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาขณะนี้เริ่มมีปริมาณนำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,517 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีระดับน้ำเหนือเขื่อน 17.40 เมตร(รทก.) มีระดับน้ำท้ายเขื่อน 16.01 เมตร (รทก.) และเขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน 2,698 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
