นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจเยี่ยมการดำเนินการตามนโยบายการเปิดประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกว่าเมื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคมลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินการของส่วนงานต่างๆ ภายใน ทสภ. ตามนโยบายการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกว่าเมื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยจะได้รับความสะดวกภายใต้มาตรการการคัดกรองและเฝ้าระวังโรคที่ได้มาตรฐานสากล โดยมีนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมคณะผู้บริหาร ทอท. ให้การต้อนรับ
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์ - "ยุพราช"ชี้! นักการเมืองไม่จำเป็นต้องรวย แค่เคียงข้าง ปชช.ไม่ทุจริตโกงบ้านเมืองก็พอ
- ชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์ ส่อเดือด! นักการเมืองรุ่นใหม่ทยอยเปิดตัว ท้าชนแชมป์เก่า
- รมว.วธ. ยินดีกับ “หลานม่า”เข้ารอบชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 เป็น 1 ใน 15 เรื่องสุดท้าย
- ศค.จชต. สร้างการรับรู้สัญจร เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา “เรียนดี มีความสุข”…
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะได้ตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ การให้บริการตรวจเอกสารด้วยระบบใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศไทย (Certificate of Entry :COE) และการสแกน QR Code ของระบบ Thailand Pass บริเวณ Concourse E ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วให้กับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งในอนาคตจะเข้ามาแทนการใช้ระบบ COE ติดตามความเรียบร้อยของการให้บริการ ณ จุดตรวจหนังสือเดินทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง(Immigration) จุดตรวจศุลกากร และจุดนัดพบระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมสถานที่กักตัวทางเลือก(AQ) หรือ โรงแรม SHA Plus
หลังจากนั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมประชุมออนไลน์ ผ่านระบบ Cisco Webex Meeting กับผู้บริหาร ทอท. จากท่าอากาศยานภายใต้การดูแลของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานศุลกากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อรับฟังบรรยายการสรุปการดำเนินงานของแต่ละท่าอากาศยานและหน่วยงาน
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า เพื่อรองรับกับนโยบายการเปิดประเทศ ทอท. ได้เตรียมความพร้อมท่าอากาศยานในการดูแลทั้ง 6 แห่ง ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก มีการวางมาตรการเพื่อดูแลผู้โดยสารภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีการนำเทคโนโลยีใหม่มาสร้างความมั่นใจให้ผู้โดยสารเพื่อลดการสัมผัสระหว่างเดินทาง เช่น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) มีระบบเช็คอินด้วยตัวเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service : CUSS) ระบบโหลดสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop : CUBD) ไว้ให้บริการ ทั้งนี้ เชื่อว่าความพร้อมในทุกด้านของ ทอท. จะสนับสนุนการเดินทางที่ปลอดภัยของผู้โดยสารทั้งที่เดินทางในประเทศและระหว่างประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวให้เลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทาง ฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทยให้กลับมาฟื้นตัวเร็วที่สุด
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจัดฝึกซ้อมใหญ่การให้บริการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งกระบวนการทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนการให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารผู้โดยสารและส่วนต่างๆของท่าอากาศยาน ทั้งผู้โดยสารทั้งเขาเข้าและออก ในประเทศและระหว่างประเทศ เป็นไปตามมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T ตามหลักการ COVID-Free Setting และ Universal Prevention อย่างเคร่งครัด
วันนี้เป็นวันแรกที่เปิดประเทศ โดยได้มีสายการบินแจ้งทำการบิน ประมาณ 260 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ ประมาณ 91 เที่ยวบิน แยกเป็นเที่ยวบินขาเข้า 40 เที่ยวบิน ขาออก 51 เที่ยวบิน เที่ยวบินภายในประเทศ ประมาณ 169 เที่ยวบิน แยกเป็นเที่ยวบินขาเข้า 84 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออก 85 เที่ยวบิน ประมาณการผู้โดยสาร ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางมาที่ ทสภ. ประมาณ 20,083 คน เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 6,613 คน แยกเป็นผู้โดยสารขาเข้า 2,424 คน(ชาวต่างชาติ 1,534 คน และ ชาวไทย 890 คน) ผู้โดยสารขาออก 4,189 คน เป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 13,470 คน แยกเป็นผู้โดยสารขาเข้า 6,690 คน ผู้โดยสารขาออก 6,780 คน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: