สระแก้ว – ผบช.ภาค 2 สั่งกำชับเข้มให้ ตำรวจสกัดจับขบวนการขนแรงงานผิดกฎหมาย สามารถจับกุมได้เมื่อช่วงเช้านี้ 21 คน พร้อมผู้นำพา 2 ราย ในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว หลังเล็ดลอดมาจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 2 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ,พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ,พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และชุดปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้เข้าจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ซึ่งลักลอบขนใส่รถยนต์อัดแน่นเป็นปลากระป๋อง โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม ผู้นำพาคนไทย ทราบชื่อคือ นายเดชา ชัยเจริญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/41 ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ขับรถยนต์เก๋ง 5 ประตู ยี่ห้อ มิตซูบิชิ Expander สีดำ หมายเลขทะเบียน งร-5290 ชลบุรี พร้อมแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 12 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 2 คน
นอกจากนั้น ยังจับกุมผู้นำพาคนไทยอีก 1 คน ทราบชื่อคือ นายศักดิ์รินทร์ วงศ์ศิริวัฒนกุล อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.5 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ขับรถยนต์เก๋ง 5 ประตู ยี่ห้อ มิตซูบิชิ มิราจ สีแดง หมายเลขทะเบียน งพ-672 ชลบุรี พร้อมแรงงานกัมพูชา จำนวน 9 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คน และผู้ติดตามซึ่งเป็นเด็กชาวกัมพูชา 4 คน เป็นชาย 1 หญิง 3 คน ที่บริเวณสามแยกช่องกุ่ม ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว รวมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมครั้งนี้ 21 ราย
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ได้สั่งการและกำชับให้ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว คุมเข้มจับกุมขบวนการและผู้ลักลอบนำแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งสืบสวนผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้ เพื่อขยายผลจับกุมเครือข่ายการจัดหาแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันปราบปรามขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงมอบหมายให้กองกำกับสืบสวนภูธรจังหวัด สืบสวนเชิงลึกและออกตรวจสอบจับกุม กระทั่งได้ผู้ต้องหาเป็นผู้นำพาชาวไทยและแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมาก
ทางด้าน พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว กล่าวว่า แรงงานกลุ่มนี้ลักลอบข้ามมาจากแนวชายแดนโดยลักลอบมาตามช่องทางธรรมชาติและมีนายหน้าคนกัมพูชาติดต่อว่าจ้างคนไทย ให้ไปรับเพื่อนำแรงงานไปส่งตามพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ เพื่อไปทำงานก่อสร้างและรับจ้าง ซึ่งจะจ่ายรถค่าเดินทางให้กับผู้นำพาคนไทย รายละ 1,000 บาท เมื่อไปถึงจุดหมาย
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลไปยังขบวนการขนแรงงาน หลังจากสอบสวนและบันทึกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาที่ 1-2 ที่เป็นคนไทย กระทำผิดฐานช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมหรือทำกิจกรรมใดในสถานที่แออัด เป็นเหตุมีลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่วนผู้ต้องหาชาวกัมพูชาทั้ง 21 คน ถูกแจ้งข้อหา ฐานเป็นบุคคลต่างด้าวผิดกฎหมายชาวกัมพูชาหลบหนีเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมั่วสุมหรือทำกิจกรรมใดในสถานที่แออัดเป็นเหตุมีลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก่อนนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองหมากฝ้าย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
————————–
