สระแก้ว – เจ้าหน้าที่่ตำรวจเร่งสืบสวนเส้นทางแก๊งขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบเข้าประเทศ พบทำเป็นขบวนการโดยนำแรงงานลักลอบข้ามแดนมาพักคอยหลายจุด ก่อนลำเลียงเข้าพื้นที่ชั้นในจนเกิดอุบัติเหตุสลด ด้านบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถฯ เตรียมจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้ชาวกัมพูชาที่เสียชีวิต รายละ 500,000 บาท ขณะที่ทีมสหวิชาชีพ จ.สระแก้ว เข้าสอบสวนชาวกัมพูชาที่รอดชีวิต 4 ราย หาข้อมูลเชื่อมโยงขบวนการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่
เมื่อวันที่ 4 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีขบวนการขนแรงงานชาวกัมพูชา ที่ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ จนมีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บอีก 8 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับขบวนนี้มาดำเนินคดีให้ได้ รวมทั้งเตรียมดำเนินคดีนายจ้างที่อยู่ปลายทาง ขณะที่หญิงกัมพูชาที่เสียชีวิต ได้รับการยืนยันแล้วว่า ติดเชื้อโควิด 19 จนต้องสั่งกักตัวเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯขณะออกเหตุเกือบ 30 คนนั้น ล่าสุด วันนี้ (4 พ.ย.) พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า จากกรณี รถกระบะอีซูซุ แวน สีบรอนซ์ ทะเบียน อร-4551 กรุงเทพฯ มีนายประวิทย์ จันสว่าง อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ ได้ลักลอบขนแรงงานกัมพูชาเข้าไปทำงานยังพื้นที่ชั้นใน แต่เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนวงเวียนบ้านคลองยายอินทร์ ม.3 ต.วังทอง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้นายประวิทธิ์ฯ คนขับรถเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที พร้อมกับแรงงานกัมพูชาอีก 4 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 3 คน และยังมีแรงงานกัมพูชาที่ลักลอบข้ามแดนนั่งไปในรถคันเดียวกันอีก 8 คน เป็นชาย 7 คนหญิง 1 คน ได้รับบาดเจ็บ โดยส่งต่อโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 4 ราย ส่วนอีก 4 คนที่เหลือบาดเจ็บเล็กน้อย และอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจภูธรวังสมบูรณ์ในขณะนี้
ทั้งนี้ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมชุดสืบสวน ภ.จว.สระแก้ว ขยายผลเส้นทางลักลอบเข้าประเทศไทยของกลุ่มแรงงานกัมพูชาดังกล่าว โดยนำตัวชาวกัมพูชาที่รอดชีวิตไปชี้จุดและเส้นทาง โดยแรงงานให้การว่า มีนายเตี้ย ผู้จัดหางานฝั่งกัมพูชา ได้ติดต่อชาวกัมพูชาให้ไปทำงานในจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย ซึ่งแรงงานกัมพูชา ส่วนใหญ่เดินทางมาจากจังหวัดพระตะบอง จะเข้าไปทำงานที่โรงงานไก่ ของบริษัทชื่อดัง ที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และจากการตรวจสอบ พบว่า มีการลักลอบข้ามแดนเข้ามาทางชายแดนบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี มีรถรับ-ส่ง จากชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรี เข้ามาพักคอยยังพื้นที่ชั้นใน ภายในบ้านหลังหนึ่ง อยู่ระหว่างเขตรอยต่อจังหวัดสระแก้วและจังหวัดจันทบุรี ก่อนจะมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3-5 คน เฝ้าหน้าประตูไม่ให้ออกไปข้างนอก เพื่อรอขึ้นรถอีกต่อหนึ่งเข้าไปยังพื้นที่ชั้นในตามจุดนัดหมาย
หนึ่งในแรงงานที่รอดชีวิต ยอมรับว่า ก่อนจะขึ้นรถคันที่เกิดอุบัติเหตุ มีรถอีก 2 คัน รับแรงงานไปส่งยังพื้นที่ชั้นในแล้ว หลังจากขึ้นรถคันที่สาม ออกมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น รถก็เกิดอุบัติเหตุ แรงงานกัมพูชา ยังบอกอีกว่า จ่ายเงินเป็นค่าเดินทางหัวละ 7,000 บาท ขณะที่การยืนยันตัวตนของแรงงานกัมพูชากลุ่มนี้ สามารถยืนยันได้แล้ว 8 คน อยู่โรงพัก 4 คน เป็นชายทั้งหมด ประกอบด้วย 1.นายยอย อะ ไก อายุ 22 ปี , 2.นายแวต รึ ไตร อายุ 19 ปี , 3.นายเฮียบ เสือน อายุ 18 ปี , 4.นายยอง ลาย อายุ 24 ปี ส่วนคนงานกัมพูชาที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 4 คน คือ 1.นายแงต โก ซอน , 2.นายซอก นี่ , 3.นางเฮง เจียง ฮัว และยังไม่ทราบชื่ออาการสาหัสอีก 1 คน ขณะที่ชาวกัมพูชาที่เสียชีวิตทั้ง 4 คน ทราบชื่อแล้ว 1 คน คือนางอม กันยา ส่วนอีก 3 คนเป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน ยังไม่ทราบชื่อ และยืนยันว่า หญิงกัมพูชาที่เสียชีวิต ติดเชื้อโควิด 1 คนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ที่ สภ.วังสมบูรณ์ น.ส.สุภาพร สำเภารัตน์ ผจก.บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สาขาสระแก้ว ได้เดินทางมามอบเงินสินไหมทดแทนให้กับ นางทองสุข กั้นกลาง แม่ของคนขับรถยนต์คันเกิดเหตุที่ผู้เสียชีวิต จำนวน 35,000 บาท เป็นเงินค่าปลงศพ ตามระเบียบของ พ.ร.บ.อุบัติเหตุจากรถ ส่วนชาวกัมพูชาที่เสียชีวิต 4 ราย จะได้รับเงินสินไหมทดแทนเป็นเงินจำนวน รายละ 500,000 บาท แต่ในขณะนี้ต้องรอสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ พิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคลก่อนว่าเป็นใคร เพื่อติดต่อญาติจากกัมพูชาให้มารับเงิน โดยทางสถานกงสุลกัมพูชาประจำประเทศไทยจะเป็นผู้ดำเนินการ แต่ก็ต้องรอผลยืนยัน และจะเร่งดำเนินการตามระเบียบโดยเร็ว และแรงงานกัมพูชาที่ได้รับบาดเจ็บ ก็จะได้รับความคุ้มครองจาก พรบ.รถยนต์ รายละไม่เกิน 80,000 บาทด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทีมสหวิชาชีพ จ.สระแก้ว ประกอบด้วย สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สระแก้ว สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ,สำนักงานจัดหางานจังหวัด, กอ.รมน.สระแก้ว ,พนักงานสอบสวน สภ.วังสมบูรณ์ และ พ.ต.อ.เสน่ห์ เสนน้อย รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้ร่วมกันสอบสวนแรงงานชาวกัมพูชาที่ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ที่รอดชีวิต จำนวน 4 ราย เพื่อหาข้อมูลผู้ประสบเหตุว่า กรณีดังกล่าวเชื่อมโยงขบวนการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่ สำหรับการเข้าดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
—————————-
