X

หนุ่มกัมพูชาหอบลูก 5 ขวบ กลับบ้านจากปราจีนบุรี

ปราจีนบุรี – หนุ่มกัมพูชาหอบลูก 5 ขวบ กลับบ้าน หลังลูกคิดถึงแม่จึงพาลูกเดินกลับแต่ คนกัมพูชาที่ทำงานในห้างเห็นจึงแจ้งตำรวจช่วยเหลือผลักดันกลับ

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าพบแรงงานกัมพูชากับลูกชาย 5 ขวบ ในห้างโลตัส สาขากบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จึงให้สายตรวจรถยนต์ตรวจสอบ พบว่า เป็นแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาอายุประมาณ 35 ปี และลูกชายนั่งอยู่ในสวนอาหาร จาการสอบถาม ทราบชื่อเล่น “โดม” มาทำงานที่ฟาร์มไก่แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ประจันตคาม หลังจากทำงานที่ฟาร์มไก่ได้ 1 เดือนลูกชายคนโต อายุ 5 ขวบ คิดถึงแม่อยู่ที่กัมพูชา ด้วยความสงสารลูก จึงขอเถ้าแก่กลับบ้านที่กัมพูชา เถ้าแก่ไม่อยากให้กลับไป เพราะไม่มีพาสปอร์ตเข้าเมือง กลัวตำรวจจะจับ แต่นายโดมต้องการจะพาลูกกลับไปหาเมีย จึงออกจะฟาร์มไก่เดินมาตามถนนสาย 304 กระทั่งมาถึงหน้าห้างโลตัส หิวข้าว จึงพาลูกชายนั่งอยู่ที่ศาลา ขณะเดียวกัน มีเพื่อนแรงงานกัมพูชาที่มาทำงานอยู่ในห้างฯ พบเห็น จึงเกิดความสงสารเพื่อนร่วมชาติที่ตกระกำลำบาก จึงพาเข้ามากินข้าวในห้างแล้วโทรแจ้งตำรวจให้ผลักดันเพื่อนร่วมชาติกลับบ้านด้วย

ทางด้าน ร.ต.ท.สมฤกษ์ ชาวน้ำอ้อม ,ส.ต.ท.ธนพล โม้งปราณีต สายตรวจรถยนต์มาตรวจสอบ นายโดมพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด แต่พอฟังรู้เรื่อง บอกว่า เข้ามาหางานทำในไทย แต่ลูกคิดถึงแม่ จึงอยากจะพาลูกไปหาแม่ และมีเพื่อนร่วมชาติที่ทำงานอยู่ในห้างฯ มาพบเห็น จึงร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจช่วยเพื่อนร่วมชาติกลับประเทศด้วย และเรี่ยไรเงินส่วนตัวกันให้นายโดม เป็นค่ารถพาลูกกลับบ้านไปหาแม่ เพราะสงสารเพื่อนร่วมชาติมาก แต่ไม่รู้จะช่วยเหลือยังไง ทำได้แค่เรี่ยไรเงินค่ารถ 500 บาท จากนั้น ได้นำตัวไปที่ สภ.กบินทร์บุรี เพื่อทำประวัติและผลักดันกลับประเทศต่อไป

———————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"