ปราจีนบุรี – สาวบ่อทองเช่าบ้านตัวเองอยู่ บางวันไม่มีข้าวกิน หลังเอาบ้านไปทำสัญญาขายฝากไว้และบ้านถูกยึด ตกงานไม่มีรายได้
เมื่อวันที่ 6 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี รับแจ้งว่า ที่บ้านเลขที่ 79 ม.2 บ้านโนนสุขภูมิ ต.บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีหญิงสาวคนหนึ่ง ทำสัญญาขายฝากกับคนรู้จัก ต่อมาไม่มีเงินส่ง ถูกยึดบ้าน จึงต้องเช่าบ้านตัวเองอยู่ ตกงานไม่มีรายได้ทำทุกอย่างที่ขายได้ ตั้งโต๊ะขายกับข้าวที่หน้าบ้าน บางวันไม่มีรายได้ ไม่มีข้าวหุงกิน ไปขอเพื่อนบ้านมาหุงกิน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ดังกล่าว พบกับนางปัทมา เฉ็งเจริญ อายุ 48 ปี กำลังตั้งโต๊ะเล็กเล็ก ขายกับข้าวเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ โดยการทำเมนูยำแหนมข้าวทอด ขายถุงละ 40 บาท ที่บ้านเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว ช่วยสามีที่ไปรับจ้างทำงานก่อสร้างกับเถ้าแก่
นางปัทมา กล่าวว่า เดิมบ้านหลังนี้เป็นบ้านของตนเองกับสามีที่ปลูกอยู่อาศัย เมื่อปีที่ผ่านมาได้ทำสัญญาขายฝากให้กับคนที่รู้จัก ห้าหมื่นบาท ขณะนั้นมีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อเนื่อง ประกอบกับตนเองมีโรคประจำตัว (โรคปอด) ต้องหยุดทำงานรับจ้างทั่วไปช่วยสามี จึงตัดสินใจทำสัญญาขายฝากบ้านหลังนี้ คิดว่าเมื่อตัวเองรักษาโรคประจำตัวหาย ก็จะหางานทำพอจะได้ไถ่ถอนบ้านคืน แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด งานก็หายาก สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ขาดเงินส่งค่าเช่าบ้านตั้งแต่เดือน ก.พ.63 ที่ผ่านมา ทางคู่สัญญาเก็บค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท และค้างชำระค่าไฟฟ้าเข้า 2 เดือนแล้ว สามีไปทำงานก่อสร้างมีรายได้วันละ 300 บาทเศษ
“วันไหนมีงานก็พอได้เงินมาใช้จ่ายในบ้าน วันไหนไม่มีงาน ก็ไม่มีเงิน สามีต้องหารับจ้างทำงานทั่วไปในละแวกใกล้เคียง เพื่อให้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว และเคยถามคู่สัญญา หากว่าจะขอซื้อบ้านคืนจะขายให้เท่าไหร่ เพราะไม่มีที่อยู่ ได้รับคำตอบว่า จะขายคืนให้ในราคาสองล้านบาท ได้ยินคำนี้น้ำตาตกใน พูดอะไรไม่ออก คงไม่มีเงินซื้อบ้านคืน หากไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องที่ค้างไว้ คงถูกไล่ออก ยังไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ครอบครัวของตนเป็นคนยากจน ญาติทางสามีอยู่ในละแวกนี้ ฐานะไม่สู้ดีนัก มีลูก 2 คน คนโตเอาลูกมาให้เลี้ยงไว้อายุ 3 ขวบ ไม่มาหาอีกเลย ปัจจุบันอาศัยอยู่กับสามีและลูกคนเล็ก 3 คน
อย่างไรก็ตาม การทำข้าวขายที่หน้าบ้านมีรายได้ครั้งละ 300-400 บาท ถ้าไม่มีเงินพอไปซื้อแหนมหรืออย่างอื่นมาทำ ก็ต้องหยุดขาย ไปหารับจ้างรายวันในหมู่บ้าน เพื่อให้ได้มีเงินมาซื้อวัตถุดิบมาทำกับข้าวขายต่อ ถ้าไม่มีใครจ้าง ต้นไม้ที่มีอยู่หมู่บ้านจำพวกไม้ด่าง ไม้ดอกไม้ประดับ ที่พอมี เอาออกมาตั้งขาย โดยขายผ่านทาง facebook และบอกขายให้กับคนรู้จักในละแวกเดียวกัน และหมู่บ้านใกล้เคียง เพื่อให้มีรายได้จะมากจะน้อยก็ขอให้ขายของได้บ้าง ลูกชายคนเล็กช่วยขายขนมทาง facebook พอได้ครั้งละ 100-200 บาท ตนเองตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ มีคุณพรรณี เรืองกิจไพศาล ช่วยเหลือใบางครั้งที่เดือดร้อน ทุกวันนี้ทำทุกอย่างที่พอขายได้ ขอให้เป็นอาพีชสุจริต เพื่อความอยู่รอด คุณพรรณี กล่าวว่า ขอให้กำลังใจสู้ต่อไป บางครั้งพอช่วยได้ก็จะช่วยเพราะเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
