สงขลา- สะเดา แนะใช้กรอบ IMT-GT ต่อยอดเศรษฐกิจไทย-มาเลเซีย ดันภาคเอกชนชายแดนใต้ขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลสองประเทศ จับตาจุดเปลี่ยนการค้าและการท่องเที่ยวบนแพลตฟอร์ม ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดน
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต. ) เปิดเวทีขับเคลื่อนการแลกเปลี่ยนการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้หลังวิกฤตโควิด-19 ต่อเนื่อง โดยการจัดเสวนา ครั้งที่ 3 หัวข้อ “โอกาสและข้อจำกัดการร่วมพัฒนา เศรษฐกิจ ไทย-มาเลเซีย บริเวณเขตแดนเชื่อมต่อของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับ 5 รัฐ ของประเทศมาเลเซีย”
มีวิทยากร ประกอบด้วย นางวริยา ภิสัชเพ็ญ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานความร่วมมืออนุภาคแผนงาน IMT-GT (CIMT), ดร.ทวีศักดิ์ พุฒสุขขี ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยทักษิณ, นายสุมิตร กาญจนัมพะ อุปนายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา, นายอาทิตย์ วิสุทธิสมาจารอดีตนายด่านศุลกากรสะเดา ดำเนินการเสวนาโดย นายสมชาย สามารถ บรรณาธิการศูนย์ข่าวเนชั่น ภาคใต้ และ นายชัยวุฒิ บุญวิวัฒนาการ รองประธานสถาบันวิทยาลัยชุมชนสงขลา ถ่ายทอดสดทางเพจ ศอ.บต.และสงขลาโฟกัส
ข่าวน่าสนใจ:
- สงขลา อำเภอสะเดาอ่วม น้ำป่าทะลักท่วมบ้านเรือนช่วงใกล้รุ่ง นอภ.พร้อมหน่วยงานฯเร่งช่วย
- สงขลา ตะเกียงเจ้าพายุเก่า มรดกแห่งเเสงสว่างและเรื่องราว จากอดีตสู่ปัจจุบัน
- ชาวกันตัง ไม่ทน! จ่อแจ้ง 157 หากตรวจรับงานมิชอบ โครงการปรับภูมิทัศน์ริมท่าน้ำกันตัง-เกาะเนรมิต 73.7 ล้าน…
- Chef’s Tableรุ่นใหม่คัดวัตถุดิบท้องถิ่นปักษ์ใต้ชั้นเลิศสู่โต๊ะอาหาร เสิร์ฟเมนูหรูไฟน์ไดนิ่ง
ดร.ทวีศักดิ์ พุฒสุขขี บอกว่า ประเทศมาเลเซียมีความมั่นคงทางการเมือง ในขณะที่ไทยมีนโยบายการเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า เน้นความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสังคม รวมไปถึงกลุ่มอาเซียนโดยรวม ปี 1990 ไทยและมาเลเซีย ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจ จนกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่
เศรษฐกิจที่ขยาย ทำให้เกิดความมั่งคั่ง มั่นคง ในภูมิภาค ควบคู่การการลดปัญหาความยากจน มีการสร้างกลไกต่างๆ นอกจากพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทาง เครือข่ายสื่อสารเพื่อที่จะให้พรหมแดนของ 2 ประเทศนี้เปิดกว้าง ให้เปิดสภาวะที่เรียกว่า การแลกเปลี่ยนและการค้าของประชาชน ความเข้าอกเข้าใจบางส่วน ภูมิภาค กลายเป็นภูมิภาคเศรษฐกิจที่ถูกจับตามอง ปี 2536 โดยตั้ง (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle หรือ IMT-GT) เป็นข้อตกลงร่วมของ 3 ประเทศ อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย “IMT-GT คือ Growth Triangle พื้นที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เป็นแหล่งการผลิต การบริโภค เป็นตลาดและเป็นแหล่งสินค้าต่างๆ โอกาสที่เราจะเดินหน้าต่อเพื่อพัฒนาภูมิภาคที่มีวุฒิภาวะมากกว่าพื้นที่อื่น”
สิ่งนี้ท้าทายอย่างมาก ต่อสมรรถนะของประชากร ว่าจะผ่านปัญหาโควิดนี้ไปอย่างไร เราจะใช้สมรรถนะของภาคี เพื่อก้าวข้ามวิกฤติที่เราพบ การสนับสนุนการท่องเที่ยว อาจจะต้องนำร่องหลายอย่าง คงต้องหารือในการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวที่มีความหมาย หาศักยภาพของพื้นที่ หรือสร้างเรื่องราวในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการไหลเวียนแก่ประชาชนในทุกๆ แห่ง ต้องใช้เวลาและมาตรการในการเปิดประเทศให้ชัดเจน และความพร้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล วิกฤติโควิด และอยากให้ Active ในการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งเรามาไกล เราถ้อยกลับไม่ได้
“อยากให้ทั้งไทย และมาเลย์ มาประชุม หารือเพื่อหามาตรการที่เหมือนกัน และเป็นที่ยอมรับของทั้งสองประเทศ ผ่านแอปพลิเคชั่น ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่า จะเป็นการท่องเที่ยว การลงทุน ก็จะเกิดขึ้น” ดร.ทวีศักดิ์ ฯบอก
นางวริยา ภิสัชเพ็ญ บอกว่า IMT-GT จะเน้นเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพราะการเชื่อมโยงกนัน ไม่ว่าจะท่าเรือ หรือด่านต่างๆ รวมไปถึงการสร้างถนน สะพานต่างๆ จะเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งเป้าหมายหลัก คือการเพิ่มหรือสร้างรายได้นัดให้ประชากรในพื้นที่เดิม IMT-GT เราเน้นจังหวัดที่มีรายได้น้อย และไม่เจริญมาก เพื่อเข้าไปช่วย ตอนนี้มีโครงการต่างๆ มากมาย โดยของไทยเรา “สนามบินเบตง” ที่มีความก้าวหน้า และเป็นจุดเด่นของภาคใต้ตอนล่าง
IMT-GT มองว่า มาเลเซีย เป็นตัวกลางที่จะเชื่อมระหว่างไทย กับอินโดนีเซียได้ ซึ่งอินโดนีเซียมีความน่าสนใจคือ ถนนไฮเวย์ แต่เขามีปัญหาเรื่องการขนส่ง ถนนน้อย โครงการที่เกาะสุมาตรา เป็นถนนยาวครึ่งเกาะ ทำให้นักธุรกิจทั้งอินโด และมาเลย์ สนใจที่จะช่วยให้สุมาตรามีความเจริญมากขึ้น
มาเลเซียมีด่านที่ติดกับไทย ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถึง 7 ช่องทางที่มีการพัฒนาละแวกพรมแดนต่างๆ มีโครงการที่อยู่ในความดูแลของ IMT-GT เป็นพื้นที่ของการพัฒนาเศรษฐกิจต่างๆ โครงการด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ร่วมกันทำการส่งเสริมการตลาด ทั้งยังมีเว็บไซต์ที่ขายอาหารฮาลาล ภายใต้โครงการ IMT-GT E-Commece ปีนี้ ทาง IMT-GT ลงนาม MOU เพื่อจะได้ร่วมมือพัฒนา และเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว ของจีโอพาร์ค (Geopark) สตูล ลังกาวี Lake Toba ทั้งสามแห่ง ได้รับการสนับสนุนจากยูเนสโก (UNESCO)
นายอาทิตย์ วิสุทธิสมาจาร บอกว่า ต้องการเห็นรถไฟทางคู่ จากหาดใหญ่ ไปสุไหงโก-ลก เชื่อมต่อกับตุมปัด ไปโกตาบารู เพื่อไปเชื่อมกับโจโฮร์บะฮ์รู เพื่อไปสิงคโปร์ และสามารถกลับมาที่ปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 5 สะพานข้ามแม่น้ำ ที่ด่านสุไหงโก-ลก ซึ่งยังไม่สามารถก่อสร้างสะพานได้ เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ขณะที่ ด่านบูกิตบูงา บ้านบูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส และนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศมาเลเซีย ได้สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วน อ.สุไหงโก-ลก ที่มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยว และการขนส่ง เส้นทางรถไฟ จากหาดใหญ่ไปถึงจุดนั้น เป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าต้องผ่านท่าเรือน้ำลึกของสงขลา 2 ที่อ.จะนะ ฝั่งอ่าวไทย ซึ่งจะเกิดหรือไม่อยู่ที่อนาคต และอยู่ใกล้กับด่านบ้านประกอบ ซึ่งอยู่ในกรอบยุทธศาสตร์ IMT-GT
ด้าน นายสุมิตร กาญจนัมพะ บอกว่า ประเทศคู่ค้าอย่างมาเลเซีย ก็มีข้อจำกัดมากมาย มีอุปสรรคทางการค้าต่างๆ อาทิ ภาษี ปัจจุบันคลี่คลายลง การส่งเสริมการลงทุน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ แนวชายแดน ไทย –มาเลย์ ทั่วประเทศมี 10 เขต ในส่วนของภาครัฐมีการสนับสนุน โปรโมท จนถึงปัจจุบัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมการ คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2565
ในส่วนของกิจการที่จะนำมาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ แนวชายแดน ไทย –มาเลย์ ไม่ใช่เรื่องง่าย การทำการตลาดต้องทำอย่างเข้าใจ ก่อนที่จะชวนเขาเข้ามา ต้องเข้าใจในธุรกิจนั้นๆ การที่จะดึงสักกิจการหนึ่ง อาจจะอยู่ไม่ได้ นอกจากการได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายอื่นๆ ต้องพิจารณาดูให้ดี
ภาคเอกชนต้องร่วมมือกัน หากเปรียบเป็นนักการตลาด พนักงานขาย Information ที่เขาให้มา รายชื่อกลุ่มเป้าหมายประมาณพันราย เราadd post ทางช่องทางไหนก็ได้ ให้สำเร็จสัก 3-5% ถือว่ามหาศาล แต่เราก็ต้องหานักการตลาด ภาครัฐและภาคเอกชนที่มีInformation ต้องช่วยกัน ต้องชักชวนเข้ามาลงทุน ผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประเทศ ผู้นำกระทรวง มักจะเอา AEC ไปขาย และเขามีความพร้อมกว่าเราทุกด้านถือเป็นตัวท็อป และยังนำเขตเศรษฐกิจพิเศษของเราไปขายด้วย ซึ่งเรามีอะไรมากมายที่สามารถโปรโมทได้ แต่กลับไปโปรโมท AEC มากกว่า ความคาดหวังของภาครัฐมีสูงมากเพียงแค่รอวันเวลา
“อุปสรรค์ในพื้นที่เศรษฐกิจ สิ่งแรกคือปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือน้ำลึก และต้องมีท่าเรือน้ำลึกแห่งที่สอง มีโครงการ แต่ยังไม่ทราบว่าจะสร้างที่ไหน อย่างไร ซึ่งสิ่งนี้จำเป็นที่ต้องมี” นายสุมิตร กล่าวและว่าเราควรจะต้องมีโรงงานผิตกระแสไฟฟ้า และอีกด้าน คือด้านแรงงาน เงื่อนไขการลงทุนใหม่ๆ จะเน้นด้านแรงงาน ที่มีทักษะ เทคโนโลยี นวัตกรรม เราจำเป็นต้องพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน มีสถาบันแรงงานฝีมือ ภาคเอกชนร่วมกันจัดตั้งเขตอุตสาหกรรม “
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: