ชัยภูมิ – สำรวจตลาดหลังน้ำท่วมลดกว่า 1 เดือน หลังผักมีราคาแพงเป็นประวัติการณ์ ล่าสุดคนแห่ปลูกราคาเริ่มลดลงต่อเนื่องแม่ค้าเตือนหวั่นล้นตลาดราคาตกต่ำซ้ำหนักตามมาอีกได้ หลังเกิดน้ำท่วมหนักสุดครั้งใหญ่รอบกว่า 50 ปี และน้ำท่วมลดเข้าสู่ภาวะปกติผ่านมาได้เกือบ 1 เดือน ที่ผ่านมาทำพืชผักขาดตลาดราคาสูงเป็นประวัติการณ์ผักชีพุ่งขาย กก.สูงกว่า 250-400 บาท ล่าสุดกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาเริ่มกลับมาลดลงต่อเนื่องแล้ว หลังเริ่มมีเกษตรกรแห่ปลูกพืชผักกันในหลายพื้นที่ต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก แม่ค้าย่านตลาดฝากเตือนหวั่นล้นตลาด เสี่ยงทำให้ราคาพืชผักตกต่ำตามมาซ้ำอีกได้ ขอให้ภาคการเกษตรต้องติดตามภาวะผู้บริโภคความต้องของตลาด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาพืชผักราคาตกต่ำซ้ำหนักตามมาอีกครั้งได้ในขณะนี้ด้วย!
(12 พ.ย.64) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ หลังจากมีการสำรวจตลาดมาต่อเนื่องช่วงกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเกิดน้ำท่วมติดต่อกันอ่วมหนักถึง 2 รอบซ้อนครั้งใหญ่สุดในรอบกว่า 50 ปี เข้าสู่ภาวะปกติมาได้ล่าสุดเกือบ 1 เดือน ที่ผ่านมา พบพืชผักทุกชนิดในตลาดเมืองชัยภูมิขาดแคลน และมีราคาแพงขึ้นสูง 2-3 เท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นผักคะน้ามีการปรับราคาขายที่กิโลกรัมละ 60 บาท กระหล่ำปลีขายกิโลกรัมละ 60 บาท ต้นหอมกิโลกรัมละ 100 บาท ที่แพงสุดจะเป็นผักชีมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 250 – 400 บาท ผ่านไปกว่า 1 เดือนหลังน้ำท่วมลด
ล่าสุดซึ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว หรือหน้าหนาวแล้ว มีอุณหภูมิในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ขณะนี้ลดลงเฉลี่ย 20 องศา ทำให้เริ่มมีชาวบ้านที่พื้นที่มีการปลูกพืชผักสวนครัวกันมากขึ้นมาต่อเนื่อง และในตลาดสดเทศบาลเมืองชัยภูมิ ขณะนี้จึงมีการปรับราคาพืชผักลดลงตามมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งกลุ่มแม่ค้าที่ขายผักในตลาดสดเทศบาลเมืองชัยภูมิ บอกในช่วงนี้เริ่มมีผักออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้นแล้ว ทำให้ราคาผักแต่ละชนิด ก็เริ่มปรับราคาลดลงตามมาด้วยแล้ว
ซึ่งเริ่มเป็นผลดีต่อลูกค้าที่สามารถซื้อพืชผักไปประกอบอาหาร และประกอบอาชีพทำอาหารขายได้ลดภาระต้นทุนแพงลงได้บ้างแล้วในช่วงนี้ ซึ่งมีการปรับราคาพืชผักทุกชนิดล่าสุดลงเกือบเท่าปกติแล้ว ทั้งผักคะน้ากลับมาขายที่กิโลกรัมละ 40 บาท กระหล่ำปลีกิโลกรัมละ 40 บาท ต้นหอมกิโลกรัม 60 บาท ส่วนผักชีที่ปรับราคาไปสูงกว่าใครที่ผ่านมาสูงกิโลกรัมละ 250 – 400 บาท เองก็เริ่มปรับราคาขายลดลงมาที่กิโลกรัมละ 120 บาทแล้ว
ซึ่งจากนี้ต่อไปก็เป็นช่วงเข้าหน้าหนาวแล้ว เกษตรกรในหลายพื้นที่ทั้งพื้นที่ที่เคยปลูกผักส่งมาจากต่างจังหวัด และในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ก็เริ่มหันมาปลูกผักทุกชนิดมาจำหน่ายกันจำนวนมากขึ้นแล้ว ราคาพืชผักในตลาดปัจจุบันก็จะมีราคาถูกลดลงอีกมากต่อเนื่อง และอยากแนะนำกลุ่มเกษตรกรว่าควรปลูกให้พอดีกับตลาด ซึ่งหากปลูกมากกว่านี้ต่อไปจนล้นตลาด ก็จะขายยากและเสี่ยงที่จะมีราคาตกต่ำหนักตามมาซ้ำอีกได้ในขณะนี้ด้วย
