หนุ่มวัย 33 ปี ชาวสกลนคร เครียดจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนปีนขึ้นไปใช้ผ้าเก่าผูกคอ แต่ผ้าขาดตกลงมาจมน้ำดับ เหตุเกิดภายในคลองสาธารณะท้ายสนามกอล์ฟ ท้ายซอยนิคมอุตสาหกรรมบางปูซอย 9 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ร.ต.อ.อำนาจ ตะเคียนราช รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีผู้พบศพชายเสียชีวิตลอยน้ำอยู่ภายในคลองสาธารณะท้ายสนามกอล์ฟ ท้ายซอยนิคมอุตสาหกรรมบางปูซอย 9 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุภายในคลองดังกล่าวได้พบศพนายสุจิน หวานจิตร อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร นอนหงายเสียชีวิตลอยอยู่ในน้ำภายในคลองดังกล่าว ในสภาพมีเศษผ้าขนหนูสีเขียวขาวสภาพเก่าผูกติดอยู่ที่ลำคอ ซึ่งตรงจุดที่พบศพอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่บริเวณใต้ต้นไม้ดังกล่าวได้พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า สกุ๊ปปี สีฟ้า-ดำ จอดอยู่ โดยมีกล่องโฟมใส่ข้าวแขวนและนมกล่องอยู่ที่แฮนด์ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรถของผู้ตาย และเมื่อแหงนดูด้านบนต้นไม้ได้พบผ้าขนหนูชนิดเดียวกับที่ผูกอยู่ที่ลำคอผู้ตายผูกอยู่กับกิ่งไม้ด้านบนสูงจากพื้นประมาณ 10 เมตร จึงได้ให้มูลนิธิขึ้นไปตรวจสอบและปลดลงมาพบว่าที่ผ้าขนหนูผืนดังกล่าวถูกฉีกออกเป็นท่อน ๆ และนำมาผูกต่อกับเพื่อเพิ่มความยาวของผ้า ที่บริเวณปลายของผ้าขนหนูมีร่องรอยขาด จากการเปรียบเทียบกับปลายผ้าที่ผูกอยู่ที่ลำคอผู้ตายพบว่าเป็นรอยฉีกขาดอันเดียวกัน ตรวจสอบในตัวผู้ตายพบบัตรประชาชนระบุชื่อนายสุจิน หวานจิตร อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 4 ต.คำสะอาด อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พร้อมด้วยบัตรเอทีเอ็มของธนาคาร กสิกรไทย และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงได้มอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายน่าจะมีอาการเครียดปัญหาส่วนตัว จึงขี่รถไปซื้อข้าวใส่กล่องและนมกล่อง และขี่รถมาจอดใต้ต้นไม้ดังกล่าวจังหวะที่เหลือบไปเห็นผ้าขนหนูเก่าผืนดังกล่าวน่าจะตกอยู่ในละแวกใกล้เคียงต้นไม้จึงนำมาฉีกและผูกต่อกันก่อนปีนขึ้นไปผูกคอตัวเองกับกิ่งไม้ แต่ผ้าขนหนูซึ่งอยู่ในสภาพเก่าจึงเกิดขาดลงมาทำให้ร่างของผู้ตายตกลงมาด้านล่างคาดว่าศีรษะน่าจะลงมากระแทกกับพื้นด้านล่างจมทำให้หมดสติและจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
