ปราจีนบุรี – ชาวนาปรังพื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ขายข้าวไม่ได้ ขอลานวัดตากข้าว
เมื่อวันที่ 14 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานวัดบูรณราษฎร์ศรัทธาธรรม ม.4 ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เกษตรกรชาวนาปรังกว่า 10 ราย หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันอาศัยลานวัดตากข้าวเปลือก หลังจากเกี่ยวข้าวเสร็จขายไม่ได้ จึงขออาศัยลานวัดตากข้าว เพื่อเก็บไว้สีข้าวกินเองในครัวเรือน บางคนขายเท่าทุน เพื่อจ่ายค่ารถเกี่ยวไร่ละ 600 บาท ปีนี้ราคาข้าวนาปรังตกต่ำกว่าปีที่ผ่านมา เพื่อนบ้านใกล้เคียงเกี่ยวนำไปขายร้านรับซื้อข้าว ไม่รับซื้อ จึงต้องขนมาตากไว้ที่บ้าน สร้างความท้อแท้ให้กับเกษตรกรชาวนาปรังอย่างมาก ไม่มีใครช่วยเหลือชาวนาได้เลย ถึงฤดูเก็บเกี่ยวราคาจะถูกจะแพงยังไงก็ต้องขาย
ทางด้าน ป้าหนูแดง สงคราม ชาวนาปรัง ต.นาแขม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เพื่อนบ้านเกี่ยวข้าวนาปรังไปขายได้ราคากิโลกรัมละ 6 บาท พ่อค้ารับซื้อเท่าไหร่ชาวนาเก็บเกี่ยวแล้ว ไม่มีที่ตาก รับซื้อราคาถูกก็ต้องขาย วันนี้ถึงคิว จึงจำเป็นต้องเกี่ยวข้าวไปขายเมื่อวานนี้ เพื่อนบ้านขายได้ราคากิโลกรัมละ 6 บาท วันนี้ตนเองเกี่ยวแล้วก็ขายเลยราคาก็จะรับซื้อ 6 บาท เช่นกัน ยังไงก็ต้องขาย
ทั้งนี้ ป้าระนอง ก้อนสันทัด ชาวนาปรัง บ้านแก้ง ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี กล่าวอีกว่า ชาวบ้านแก้ง ต.สำพันตาหลายสิบราย ที่ทำนาปรังปีนี้ราคาข้าวตกต่ำมากรับซื้อที่ กก.ละ 6 บาท (ขายสด) แต่ถ้าตากแห้งนำไปขายจะได้ กก.ละ 7 บาท ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับชาวนาที่ไม่มีพื้นที่ในการตาก ข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวแต่ละรายนั้นมากกว่า 10 ตัน ต้องหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันใช้พื้นที่ลานวัดตากข้าวเปลือก โดยทยอยกันเกี่ยวข้าวในนา แล้วนำมาตากไว้ที่ลานวัด แล้วบรรจุใส่ถุงปุ๋ยเก็บไว้สีกิน หรือรอขายหากข้าวมีราคาสูงขึ้น ชาวนาบางนาปีนี้ขาดทุนตั้งแต่เก็บเกี่ยว ราคาข้าวขายได้กิโลกรัมละ 6 บาท ค่ารถเกี่ยว ค่าปุ๋ย หมดแล้ว ปีนี้ทุกคนยอมรับว่า ช้ำใจสุด ๆ ราคาข้าวราคา กก. 6 บาท
——————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
