นครพนม – สสจ.นครพนม เร่งเครื่องรณรงค์กระตุ้น ปชช.ฉีดวัคซีนเข็มแรก ดันแคมเปญแจกของขวัญล่อใจตั้งเป้า 5 วัน 5 หมื่นคน
สืบเนื่อง ในฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยข้อมูล ว่า มีจังหวัดที่มีการครอบคลุมการได้รับวัคซีนโควิดเข็มที่ 1 ในอัตราต่ำที่สุด จำนวน 10 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม,หนองบัวลำภู,บึงกาฬ,สกลนคร,กาฬสินธุ์,แม่ฮ่องสอน,สุรินทร์,ร้อยเอ็ด,ยโสธร และ จังหวัดอ่างทอง
ทั้งนี้ จังหวัดนครพนมมีประชากร จำนวน 717,588 คน ฉะนั้นยอดฉีดวัคซีนที่ประชาชนควรจะได้รับ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันระดับจังหวัด ต้องมีจำนวน 502,312 คน หรือ 70 % แต่ปรากฏว่ามีประชาชนฉีดเข็มแรกไปแล้วเพียงแค่ 280,398 คน หรือ 39.08 % เท่านั้น ส่วนเข็มที่สองมีจำนวน 226,230 คน หรือ 31.53 % และเข็มที่สามมี 9,214 คน หรือ 1.28 % (ข้อมูล ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564) จึงกลายเป็นจังหวัดที่มีผู้ได้รับฉีดวัคซีนเข็มแรกต่ำที่สุดในประเทศ
ล่าสุด วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังตกเป็นจังหวัดที่มีจำนวนผู้เข้ารับวัคซีนน้อยที่สุด นพ.ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เรียกสาธารณสุขอำเภอทั้ง 12 อำเภอ เข้าประชุมหารือเป็นการด่วน เพื่อหามาตรการจูงใจให้ประชาชนฉีดวัคซีนเข็มแรกโดยด่วน แล้วนำนโยบายดังกล่าวไปให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ผนึกกำลังกับอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) เคาะประตูบ้านเชิญชวนประชาชนเข้ารับวัคซีน โดยอธิบายข้อดีข้อด้อยให้ประชาชนเข้าใจ เนื่องจากปัจจุบันประชาชนยังไม่เข้าใจว่าการฉีดวัคซีนมีข้อดีอย่างไร อีกทั้งเสพข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือไม่ได้ จึงเกิดความตื่นกลัววัคซีน ซึ่งในที่ประชุมมีมติเร่งรณรงค์ใน 99 ตำบล 1,128 หมู่บ้าน 1 เทศบาลเมืองฯ 21 เทศบาลตำบล และ 81 อบต. ชักชวนประชาชนเข้ารับวัคซีนเข็มแรกตั้งเป้าภายใน 5 วัน ต้องมีผู้ฉีดไม่น้อยกว่า 5 หมื่นคน โดยจะมีหมายเลขในแต่ละวันของผู้เข้ารับวัคซีนใส่ลงในกล่อง เพื่อนำไปจับฉลากแลกของชำร่วย มีตั้งแต่ไข่ไก่จนถึงรางวัลใหญ่ที่ทางสาธารณสุขขออุบไว้ก่อน
นอกจากนี้ได้ขอสัมภาษณ์ผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ได้รับตำตอบให้รอแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเวลาหลังประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดฯ พร้อมได้รับความร่วมมือจากหน่วยต่างๆ เช่น องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และภาคเอกชน อย่างเต็มที่ในการร่วมมือรณรงค์ในหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อประชาสัมพันธ์พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เดินเท้าชี้แจงทำความเข้าใจแก่ประชาชนรับข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึง
