ชัยภูมิ – ระหว่าง จนท.ตร.ชุดสืบฯ นำหมายศาลเข้าจับกุม ยังอยู่ในอาการหมดสภาพยังเมายาค้าง รับสารภาพสิ้นตระเวนขโมยเงินผู้ป่วยตาม รพ.เพื่อหาเงินซื้อยาบ้าเสพ!!
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา วันที่ 17 พ.ย.64 มีความคืบหน้ากรณีหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเกิดเหตุเมื่อเวลา 21.20 น. ของวันที่12 พ.ย.2564 ที่ผ่านมา ได้มีหัวขโมยแสบทำทีเข้าไปเยี่ยมญาติภายในโรงพยาบาลชัยภูมิ ตามอาคารผู้ป่วยต่างๆ และญาติผู้ป่วยกำลังนอนพักเฝ้าไข้ หลังสบโอกาสผู้ป่วย และญาตินอนหลับวางกระเป๋าเงินไว้ข้างตัว ซึ่งมีภาพวงจรปิดจับภาพคนหัวขโมยแสบรายนี้ไว้ได้ ขณะเดินเข้าไปก่อเหตุหยิบขโมยกระเป๋าเงินผู้ป่วยและเดินออกมาอย่างลอยนวล หลังวันนี้ได้ติดตามจับหัวขโมยรายนี้ไว้ได้แล้วและผู้ต้องยังยอมรับสารภาพขโมยเพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้าเสพ
หลังเกิดเหตุมีผู้เสียหายคือ นายสำรอง เขว้าชัย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 7 ต.ภูแลนคา อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ให้ลูกชายได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ ว่านางต่อม เขว้าชัย อายุ 72 ปี ได้ป่วยเข้ารักษาตัวที่อาคารอายุรกรรมหญิงชั้น 3 ของโรงพยาบาลชัยภูมิ และได้วางกระเป๋าเงินไว้ข้างตัวได้หายไป จึงเข้าแจ้งความขอให้ จนท.ตำรวจช่วยติดตามจับคนร้ายที่ขโมยกระเป๋าของมารดาที่กำลังป่วยมาดำเนินคดีในครั้งนี้
ทางชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ จึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาลชัยภูมิ ก็พบว่าในวันเกิดเหตุจนทราบแน่ชัดว่าผู้ก่อเหตุคือนายทรงภูมิ อายุ 40 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จึงได้ทำการขอหมายจับจากศาลจังหวัดชัยภูมิ เลขที่183/2564 วันที่ 17 พ.ย.2564
หลังได้หมายจับ จนท.จึงได้นำกำลังเข้าขอตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัย ตรงตามภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลชัยภูมิที่จับภาพไว้ได้ และยังพบรองเท้าที่สวมใส่วันก่อเหตุและกระเป๋าของนางต่อม ผู้ป่วยที่ค้นเจอภายในบ้านของผู้ต้องหารายนี้ด้วย และตรวจค้นยังพบยาบ้าชุกซ่อนอยู่กระเป๋ากางเกงผู้ต้องหาอีก 3 เม็ด จนท.จึงควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองชัยภูมิ
โดยเจ้าตัวผู้ก่อเหตุได้ยอมรับสารภาพว่าในวันเกิดเหตุที่ 12 พ.ย.64 เวลา 21.20 น.ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลชัยภูมิจริง เพื่อหาขโมยทรัพย์สินของผู้ป่วยหรือญาติที่มานอนเฝ้าผู้ป่วยเมื่อสบโอกาส ขณะผู้ป่วยนอนหลับและได้วางทรัพย์สินหรือของมีค่าไว้ก็จะทำทีเดินเข้าไปหาและหยิบทรัพย์สินไปเพื่อนำเงินไปเที่ยว และซื้อยาบ้ามาเสพ ส่วนในวันที่เกิดเหตุได้เดินขึ้นไปบนตึกอายุรกรรมหญิงชั้น 3 พบ ว่านางต่อมได้นอนหลับที่เตียงผู้ป่วยไม่มีญาติเฝ้าจึงได้โอกาสเดินเข้าไปหาและพบว่ามีกระเป๋าวางไว้ใกล้ตัวจึงหยิบกระเป๋าเดินออกมาจาก รพ. ซึ่งภายในกระเป๋าพบมีเงินสด 10,000 บาท และบัตร ATM พร้อมหมายเลขรหัสกดเงินจึงนำไปกดเงินที่ตู้ ATM หน้าร้านเคทีเอ็ม ถนนนิเวศรัตน์ พร้อมได้ขโมยกดเงินจากตู้เป็นได้อีกเป็นจำนวนเงิน 19,000 บาท และนำบัตรATM ไปทิ้งลงที่ท่อใกล้กับตู้ที่กดเงินก่อนขับจักรยานยนต์ถอดเสื้อยืดแขนยาวสีเทาที่สวมใส่ก่อเหตุทิ้งลงลำห้วย ที่อยู่ไม่ไกลจากตู้ ATM
ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ ยอมรับสารภาพว่า ได้เข้าขโมยของผู้ป่วยจริง ทาง จนท.จึงนำตัวไปชี้จุดที่เกิดเหตุ ภายในอาคารผู้ป่วยอายุรกรรมหญิงชั้น 3 โรงพยาบาลชัยภูมิและตู้ ATM หน้าร้านเคทีเอ็ม ก่อนนำตัวไปค้นหาเสื้อยืดแขนยาวสีเทาที่นำไปทิ้งลำห้วยเพื่อนำมาประกอบเป็นหลักฐาน
และส่งตัวให้ พ.ต.ต.ศิริ จันทร์ดีศรี สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ได้สอบสวนผู้ต้องหารายนี้ ก็ยอมรับสารภาพว่าได้เข้าไปลักทรัพย์ของนางต่อมฯผู้ป่วยที่นอนรักษาตัวอยู่อาคารอายุรกรรมหญิงชั้น 3 รพ.ชัยภูมิ จริง และยอมรับว่าพึ่งก่อเหตุครั้งแรกเพื่อนำเงินไปเที่ยวและซื้อยาบ้ามาเสพ ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ขณะถูกจับยังมีอาการเมายาบ้าพูดจาวกวนพูดไม่รู้เรื่อง ทางพนักงานสอบสวนจึงควบคุมตัวคุมขัง เพื่อดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
