ปราจีนบุรี – ชาวบ้าน จ.ปราจีนบุรี ผวาโขลงช้างป่า 50 ตัว ผลักดัน 5 ชม.ไม่ยอมกลับเข้าป่าใน ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี
เมื่อวันที่ 18 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านโปร่งศรีสะเกษ ม.9 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านร่วมกับอาสาสมัครผลักดันช้างป่าอ่างฤาไน จำนวน 20 ตัว ร่วมกันผลักดันช้างป่าอ่างฤาไนยกโขลงกว่า 50 ตัว มาหากินในป่าอ้อยและทุ่งนาของชาวบ้าน โขลงช้างป่ามาหากินในหมู่บ้าน หากินตามทุ่งนา ที่ชาวบ้านปลูกต้นกล้วยและยังไม่ได้เก็บเกี่ยวข้าว บริเวณหน้าบ้าน 4 คืน แล้วไม่ยอมไป ทำให้พืชผลการเกษตรของชาวบ้านเสียหาย โขลงช้างป่าแยกกันออกหากิน 3 กลุ่ม ทันทีที่ได้ยินเสียงจุดประทัด โขลงช้างป่าแตกตื่นออกหากินต้นกล้วย ต้นมะพร้าวตามบ้านประชาชน ไล่จากบ้านนี้ไปบ้านนั้น ชาวบ้านผวาโขลงช้างป่าที่พากันส่งเสียงร้อง ขานรับกันเป็นทอด ๆ
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างแบงเป็นสองชุด แยกกันจุดประทัดไล่โขลงช้างป่าที่มีมากกว่า 50 ตัว นานกว่า 5 ชม. ช้างป่าหลบเข้าป่าอ้อยหนาทึบ แล้วซ่อนตัวเงียบอยู่ในป่าอ้อย และออกจากป่าอ้อยมาหลายรอบ ทางเจ้าหน้าที่ที่มาคอยเฝ้าผลักดันช้างป่าที่มาหากินในทุ่งนาของชาวบ้าน ได้แต่นั่งดูโขลงช้างป่าท่ามกลางแสงจันทร์ โขลงช้างป่าจะออกหากิน หากเห็นแสงไฟฉาย จะพากันเดินหนีหลบเข้าป่าอ้อยทันที แล้วก็จะเดินไปอีกทางด้านหนึ่ง ทำให้ยากแก่กันผลักดัน
ป้านารี รุ่งเรือง ,พี่กนกวรรณ กาทาศรี ลูกสะใภ้ กล่าวว่า ช้างป่ามาหากินในป่าอ้อยข้างบ้านหลายคืนแล้ว คืนนี้ช้างป่าเข้ามาถึงในบ้านกินต้นกล้วยที่มีอายุ 5 เดือน เสียหายกว่า 300 ต้น เห็นแล้วถึงกับเข่าทรุด ร้องไห้ทำอะไรไม่ได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ผลักดันช้างกลุ่มนี้ออกจากพื้นที่เร็วที่สุด ชาวบ้านผวากันไปหมดแล้ว ช้างป่าไม่ได้มีแค่ 4-5 ตัว โขลงช้างป่ามีมากกว่าครึ่งร้อยตัว อาจจะทำอันตรายแก่ประชาชนได้
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามอาสาสมัครผลักดันช้างป่าอ่างฤาไน บอกเพียงสั้น ๆ ว่า ช้างโขลงนี้มีมากกว่า 50 ตัว การที่ยกลงมาหากินในพื้นที่แห่งนี้ เนื่องจากมีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ช้างพากันมาหากินทุกคืน และจะซ่อนตัวอยู่ในป่าอ้อยทึบ แล้วจะออกมาหากินในช่วงค่ำของทุกวัน จนกว่าแหล่งอาหารจะไม่มี ช้างจะย้ายไปหากินที่อื่น ชาวบ้านได้ช่วยกันนำรถไถ 2 คัน มาขับลุยเข้าไปในป่าอ้อย เพื่อให้ช้างป่ากลัวเสียงรถดัง ๆ แต่ก็ไม่ได้ผล ช้างพากันซ่อนตัวอยู่ในป่าอ้อยทึบ ที่มีความสูงกว่า 3 เมตร ทำให้ยากแก่การมองเห็นกระทั่ง กลางดึกที่ผ่านมา จึงได้ยุติทำการผลักดันโขลงช้างป่าและจะแกะรอยช้างป่าโขลงอยู่บริเวณใด จะได้วางแผนผลักดันออกจากพื้นที่ใหม่อีกครั้ง
————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
