X

ตรัง ผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น พร้อมทนายความเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ กกต.

ตรัง – โค้งสุดท้ายเลือกตั้งท้องถิ่นตรัง ผู้สมัครนายก อบต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว พร้อมทนายความเข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.ตรัง หลังถูกตรวจสอบคุณสมบัติ เพิกถอนสิทธิการลงรับสมัครผู้บริหารท้องถิ่น 

นายธีระวิทย์ แท่นมาก อายุ 55 ปี หัวหน้าทีมรวมพลังหนองบ่อ และสมาชิก พร้อมด้วยนายภูผา ทองนอก ทนายความ เข้ายื่นหนังสือ ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 41 (2) เกี่ยวกับการตรวจสอบคุณสมบัติว่าด้วยผู้สมัครรับเลือกตั้งมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดตรังและคณะกรรมการเลือกตั้ง โดยมีนายปัญโย สูเหตุ  พนักงานสืบสวนและไต่สวนชำนาญการ รักษาการในตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงานอำนวยการ กกต.ตรัง เป็นผู้รับหลังสือดังกล่าว

นายภูผา ทองนอก ทนายความ กล่าวว่า จากกรณีที่รวมพลังหนองบ่อ ซึ่งมีนายธีระวิทย์ แท่นมาก เป็นหัวหน้าทีม เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกอบต.หนองบ่อ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งที่ผ่านมากกต.ตรัง ได้รับรองตัวผู้สมัคร คือ นายธีระวิทย์ แท่นมาก ไปก่อนหน้าแล้ว แต่ต่อมาคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ปรากฎว่าเป็นผู้ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และ ผู้บริการส่วนท้องถิ่น ปี พ.ศ.2562 ตามาตรา 50 (10) เกี่ยวกับการกระทำความผิดฐานเล่นการพนัน ในข้อหาเจ้าสำนัก ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนี้เป็นเรื่องของการใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่น และ ผู้บริการส่วนท้องถิ่น ปี พ.ศ.2560 มาใช้บังคับกับผู้สมัคร โดย นายธีระวิทย์ แท่นมาก หัวหน้าทีมรวมพลังหนองบ่อ มายื่นเรื่องต่อกกต.ตรัง เพื่อคัดค้านการวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยพระราชบัญญัติปี พ.ศ.2562 ที่กำหนดในมาตรตรา 50(10) ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่าคุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัครต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาจนถึงที่สุด เกี่ยวกับคว่มผิดฐานเล่นการพนัน การเป็นเจ้าสำนัก ซึ่งในข้อเท็จจริงปรากฎว่าคดีดังกล่าวของผู้สมัครนั้นเป็นคดีที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2543, 2544 และ 2547 เป็นคดีที่เกิดขึ้นก่อนพระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ ในขณะการทำความผิดนั้น ผู้สมัครมีสิทธิโดยสมบูรณ์ในการที่จะลงรับสมัครรับเลือกตั้ง แต่ต่อมามีกฎหมายที่บัญญัติขชึ้นในภายหลังที่เป็นโทษต่อผู้สมัครเอง

ดังนั้นตนพร้อมผู้สมัครจึงมายืนคัดค้าน ร้องทุกข์ต่อกกต.ตรัง ว่าคุณสมบัติที่ต้องพิจารณาต่อตัวผู้สมัครนั้น ต้องใช้กฎหมายในขณะกระทำความผิด คือ พระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสมาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ในการประกอบพิจารณา และเรื่องของการตีความกฎหมายไม่ย้อนหลัง ใช้ได้ทั้งสองฉบับ แต่ต้องเป็นฉบับที่เป็นคุณต่อผู้สมัครเป็นหลัก โดยการมายืนคัดค้านในกระนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งรายอื่นด้วย และจากข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบของกกต.ตรัง ปรากฏว่ามีผู้โดยตรวจสอบคุณสมบัติตามลักษณะนี้ กว่า 20 คน เช่น คดีเล่นหวย คดีเป็นเจ้าสำนักหวย

ซึ่งพวกเราเห็นว่าการใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และ ผู้บริการส่วนท้องถิ่น ปี พ.ศ.2562 มาใช้บังคับน่าจะไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัคร เนื่องจากพระราชบัญญัติฉบับนี้ไม่มีกฎหมายใดให้บังคับใช้ย้อนหลัง รวมทั้งตามรัฐธรรมนูญก็ต้องตีความตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม ตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด และพระราชบัญญัติฉบับนี้ เป็นพระราชบัญญํติที่มีโทษทางอาญา ตามมาตราตั้งแต่ 116 ถึง มาตรา 137 เป็นบทกำหนดโทษเกี่ยวกับการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติฉบับนี้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน