ตรัง แก่นตะวันพืชสมุนไพรมหัศจรรย์ ถูกใจคนรักสุขภาพขายออนไลน์รายได้ดี เผยก่อนโควิด19 เคยขายออนไลน์ยอดพุ่งถึง 6 หลัก
ที่บ้านเลขที่ 21 ม.1 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นแปลงปลูกแก่นตะวันและพืชสมุนไพรของ น.ส.สุมาลี เมืองมีศรี อายุ 39 ปี จบการศึกษาปริญญาโท อดีตพนักงานอบต.ทรายขาว จ. กระบี่ และนายจรัน เพ็งเทพ อายุ 49 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นบุคลากรรพ.ย่านตาขาว สองสามีภรรยาร่วมกันปลูกพืชผักสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ได้แก่ แก่นตะวัน จิงจูฉ่าย บัวบก เล็บครุฑลังกา โดยใช้พื้นที่บริเวณบ้านขนาดที่ดิน 0.25 ไร่ พร้อมกับนำผลผลิตมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า อาทิ เช่น แก่นตะวันอบกรอบ แก่นตะวันชนิดผงชงดื่ม กล้วยดิบผงชงดื่ม โพสต์ขายผ่านสื่อออนไลน์ทำให้ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี มีรายได้ถึงเลข 6 หลักเลยทีเดียว หันมาเป็นเกษตรกรปลูกแก่นตะวันอย่างจริงจัง เน้นปลูกเองแปรรูปเอง หากกินสดจะขายที่กิโลกรัมละ 200 บาท แต่หากนำไปขยายพันธ์ุกิโลกรัมละ 300 บาท แก่นตะวัน 1ต้นให้ผลผลิตเป็นเหง้าหรือหัวของแก่นตะวันได้ถึง 2 กิโลกรัม
สำหรับแก่นตะวันเป็นพืชตระกูลเดียวกับทานตะวันและบัวตอง จะนิยมนำเหง้าหรือหัวมาล้างให้สะอาดสามารถทานสดได้เลย ช่วยในเรื่องช่วยลดเบาหวาน ลดความดัน ลดคอเลสเตอรอลได้จริง และใบของต้นแก่นตะวันสามารถนำมาเป็นอาหารสัตว์และกระดาษได้อีกด้วย
น.ส.สุมาลี เมืองมีศรี และนายจรัน เพ็งเทพ บอกว่า สำหรับแก่นตะวันเป็นพืชสมุนไพรที่ได้รับความนิยม จากกลุ่มผู้รักสุขภาพ และมีการตรวจสอบจากงานวิจัยจากหลายสถาบัน บอกว่าสำหรับแก่นตะวันสามารถทานสดได้ จะช่วยลดเบาหวาน ลดความดัน ลดคอเลสเตอรอลได้จริง ซึ่งเคยมีการทำวิจัยด้วยการนำหนูมาเป็นสัตว์ทดลอง ซึ่งใช้หนูตัวอ้วนและให้กินแก่นตะวันเข้าไป ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ตัวของหนูที่เป็นสัตว์ทดลองเริ่มมีรูปร่างที่ผอมลง และพบว่ามีสุขภาพที่แข็งแรงดี
ซึ่งในตอนนี้เราได้ปลูกพืชแก่นตะวัน 0.25 พื้นที่ของใน 1 ไร่ แต่แก่นตะวันนี้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ซึ่งเราจะทำการปลูกเป็นรุ่น ในแต่ละรุ่นเกือบ 1 หมื่นต้น ซึ่งเราได้เริ่มปลูกแก่นตะวันอย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันโดยก่อนหน้านี้ ก็ทำบ้างแต่ไม่ได้จริงจังเท่าไหร่ เนื่องจากลูกค้ายังรู้จักน้อยแต่พอเริ่มมี ตลาดออนไลน์มีสื่อโซเชียลเข้ามา เราก็ได้เข้ามาทำตลาดออนไลน์แบบจริงจัง จนได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าออนไลน์ ทำให้เราสามารถขยับขยายกิจการ และขอมาตรฐานจาก อย. มผช. และเป็นสินค้าปลอดภัย รวมไปถึงแปลงปลูกที่ได้รับมาตรฐาน GAP จากกรมวิชาการเกษตรด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เราขายออนไลน์ได้มากถึงเลข 6 หลัก เลยทีเดียว แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ covid-19 ก็ทำให้รายได้ลดลงมาบ้างเล็กน้อย จากผลกระทบกับเรื่องการขนส่ง เพราะไม่สามารถเข้าไปส่งได้ในบางพื้นที่ เพราะมีบางพื้นที่ที่โดนปิดเนื่องจากติดโควิด แต่เราก็ไม่ย่อท้อ ก็ได้มีการออกบูธ กับธงฟ้า พาณิชย์ต่อ สำหรับตัวของแก่นตะวันเราจะใช้ส่วนของเหง้าหรือ หัวของแก่นตะวัน สามารถกินสดได้หรือจะนำไปทำเป็นเมนูอาหาร ใส่ในส้มตำ หรือทำเป็นต้มจืด ก็ยังได้ หรือจะนำมาทำเป็นอบกรอบสามารถทานเคี้ยวเล่นได้ รสชาติคล้ายกับมันฝรั่ง และในตอนนี้เราได้แปรรูปผลิตภัณฑ์ของเรา คือทำเป็นผงแก่นตะวันสำหรับไว้ชงเป็นชา จะใส่ในกาแฟ และโอวัลตินก็ได้ จะมีรสชาติจืดกลิ่นหอมดื่มทานง่าย สามารถชงกินก่อนอาหารได้ จะช่วยในเรื่องของคุณผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยดักจับไขมัน ควบคุมน้ำหนักฯลฯ และยังมีแบบแก่นตะวันอบกรอบ หรือแบบที่ลูกค้าชอบสั่งก็คือตัวแคปซูลแก่นตะวัน ซึ่งในตัวของแคปซูลนี้เราจะเน้นทำตาม Order จากลูกค้าเท่านั้น
ซึ่งทั้งหมดนี้เราคือเกษตรกรที่เริ่มต้นตั้งแต่เพาะปลูก ดูแลจนโตไปจนถึงขั้นขุดและเก็บผลผลิตและมาแปรรูปผลิตภัณฑ์ และเรายังเป็นสินค้าโปทอปและเป็นyoung smart ของอำเภอย่านตาขาว และเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ซึ่งแปรรูปจากการขายสดด้วยการเพิ่มมูลค่ามาเป็นแก่นตะวันอบกรอบ โดยวิธีการทำจะเริ่มต้นด้วยการขุดเหง้าหรือหัวแก่นตะวัน หลังจากนั้นนำมาล้างด้วยน้ำที่สะอาด แล้วนำมาฝานเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำใส่ถาดเอาเข้าตู้อบและใช้เวลาในการอบนานหลายชั่วโมงให้แก่นตะวันแห้งและกรอบ แล้วนำมาแพ็คใส่ถุง จะขายในราคาขนาด 50 กรัม อยู่ที่ราคา 50 บาท 100 กรัมอยู่ที่ราคา100 บาท ยังไม่รวมค่าจัดส่ง หากทานแบบสดจะขายกิโลกรัมละ 200 บาท หรือหากต้องการพันธุ์ไปปลูกกิโลกรัมละ 300 บาท ส่งขายทั้งในประเทศและมีลูกค้ารับหิ้วไปขายต่อที่ต่างประเทศด้วย
สำหรับพืชแก่นตะวันนั้น เมื่อเราปลูกได้ระยะเวลาประมาณ 4-6 เดือน สามารถเก็บเกี่ยวส่วนของหัวหรือเหง้าที่อยู่ใต้ดิน ให้หมดในแต่ละรุ่น และจะเริ่มต้นการปลูกใหม่ทั้งหมด ล้วนเป็นสินค้าปลอดภัยมี GAP จากสถาบัน LAB และกรมส่งเสริมวิชาการเกษตรและมีอย. ด้วย
หากสนใจ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0898684537 หรือเพจแก่นตะวันณิชกมล
