อุบลราชธานี – ผู้รับเหมาเมืองอุบลฯทิ้งงานโครงการบ้านจัดสรร หลังเบิกเงินธนาคารหลังละเกือบล้านแต่งานไม่เสร็จ เบี้ยวจ่ายค่าช่างค่าวัสดุก่อสร้างกระฉ่อนโซเชียล ด้านผู้เสียหายวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเพราะเป็นความฝันคนอยากมีบ้านหลังแรก
กลุ่มผู้เสียหายโครงการบ้านจัดสรร แห่งหนึ่งในบ้านคำเจริญ ตำบลแสนสุข อำเภอวารินชำราบ พาผู้สื่อข่าวดูพื้นที่ก่อสร้างภายในโครงการที่ถูกผู้รับเหมาเจ้าของโครงการทิ้งงานก่อสร้าง หลังจากตัดสินใจกู้เงินธนาคารซื้อบ้านหลังแรกในราคาตั้งแต่ 1.1-1.3 ล้านบาท แต่เมื่อครบสัญญาบ้านก็ไม่แล้วเสร็จทำให้ลูกค้าที่กู้ธนาคารผ่านแล้วได้รับความเสียหายต้องผ่อนบ้านทั้งที่ไม่ได้อยู่
น.ส.พัทธนันท์ ศรีทองธรรม (เอี้ยมยีนส์) น.ส.วิลันดา นานอก (เสื้อแขนยาว) 2 ผู้เสียหายเปิดเผยว่าตนเองและลูกค้ารายอื่นได้รับความเดือดร้อนมากเพราะพวกตนเองกำลังสร้างครอบครัว ต้องการที่จะมีบ้านหลังแรกเก็บออมเงินเดินเรื่องกับธนาคารเพื่อจะกู้เงินมาซื้อบ้านหลังแรก
จนกระทั่งมาพบโครงการบ้านจัดสรรแห่งนี้ ที่ลงประกาศขายในเฟซบุ๊ก ตนเองและผู้เสียหายคนอื่นๆ ก็ติดต่อสอบถามรายละเอียด โดยมีนายบัวลอย (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของโครงการเป็นคนเดินเรื่องกับทางธนาคารแห่งหนึ่งจนผ่านในวงเงินตั้งแต่ 1.1-1.3 ล้าน แต่หลังจากทางธนาคารได้จ่ายเงินค่าก่อสร้างงวดที่ 1 ทางกลุ่มผู้เสียหายได้นำเงินงวดแรกมอบให้นายบัวลอยไปทำการก่อสร้างได้ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ บริษัทประเมินได้เดินทางมาตรวจงานและทำเรื่องเบิกเงินงวดที่ 2 หลังละประมาณ เกือบ 9 แสนบาท รวมทั้งหมด 7 หลัง เกือบ 7 ล้านบาท
ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 64 จากนั้นช่างก็เริ่มทิ้งงานโดยให้เหตุผลว่านายบัวลอย ไม่จ่ายค่าแรงและค้างค่าอุปกรณ์ก่อสร้าง จนบ้านบางหลังครบสัญญาต้องส่งมอบบ้านเดือน ตุลาคมที่ผ่านมาไม่สามารถส่งมอบบ้านได้ และก็เริ่มขาดการติดต่อ บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ขณะที่ผู้เสียหายทั้งหมด 7 หลัง ยังต้องผ่อนส่งธนาคารทุกเดือน
หลังจากที่ผู้รับเหมาเจ้าของโครงการทิ้งงาน กลุ่มผู้เสียหายบางรายเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ถูกบ่ายเบี่ยงว่าต้องไปฟ้องเอาเองเพราะเป็นความผิดทางแพ่ง ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ร้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรมก็บอกว่าต้องไปฟ้องศาลเอาเอง ติดต่อธนาคารเจ้าคู่สัญญาทางธนาคารได้ให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี พยายามติดต่อทางเจ้าของโครงการให้เข้ามาพบผู้เสียหายเพื่อตกลงกัน แต่ทางเจ้าของโครงการก็บ่ายเบี่ยงไม่เข้ามาตกลง ทางธนาคารทำได้เพียงไม่ทำธุรกรรมสัญญากับโครงการนี้ต่อ หากไม่เครียร์ปัญหาให้จบ
น.ส.พัทธนันท์ ยังกล่าวอีกว่าตนเองได้พยายามแก้ปัญหาด้วยการไปกู้เงินจากที่อื่นมาทำต่อให้เสร็จแล้วจะเบิกเงินงวดสุดท้าย แต่ก็ไม่สามารถเบิกได้ เพราะบ้านก่อสร้างไปยังไม่ถึงเปอร์เซ็นต์ที่กำหนด แต่ทำไมทางบริษัทประเมินถึงให้ผ่านวัสดุที่ใช้ก็ไม่ตรงกับที่ระบุไว้ในแบบเอาเหล็กเก่าเป็นสนิมมาก่อสร้างให้ ทำให้ช่างรับเหมารายอื่นไม่กล้ามาทำต่อ เพราะเงินงวดสุดท้ายไม่เพียงพอกับงบประมาณที่เบิกกับทางธนาคาร
อีกทั้งสาธารณูปโภคก็ยังไม่พร้อมจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายกฎหมาย สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานใหญ่ของธนาคาร ลงมาตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มผู้เสียหายด้วย
ด้านนางสาวจารุวรรณ จันกว้าง อายุ อายุ 25 ปี คนงานของโครงการเล่าว่าเดิมทีจะมีช่างประมาณ 3 ชุด แต่ตอนนี้เก็บของออกไปหมดแล้วเหลือตนเองกับสามีที่ยังอยู่รอค่าแรงที่นายบัวลอยค้างอีกจำนวนหนึ่ง
นางสาวจารุวรรณยังเล่าอีกว่าก่อนหน้าเจ้าของโครงการก็จ่ายเงินปกติตนได้มาแล้ว 4,500 บาท ถึงช่วงก่อนเข้าพรรษา โครงการเริ่มมีปัญหาไม่จ่ายค่าจ้าง ค่าแรงผู้รับเหมารายย่อย จนมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จากแรงงานจังหวัดก็เข้ามาดู แต่ก็เงียบไป ตอนนี้ก็จะรออีกสักระยะหากไม่ได้เงินก็จะเอาเครื่องมือเป็นค่าจ้างแทน
สำหรับนายสาคร ธานี อายุ 29 ปี ผู้รับเหมาถมดินโครงการเป็นอีกหนึ่งผู้เสียหายที่นายบัวลอยยังคงค้างค่าดินที่นำมาถมที่ในโครงการ เปิดเผยว่า เบื้องต้นตนเอาดินมาถมในบ้านหลังหนึ่งในโครงการ ไม่มีปัญหาอะไร จากนั้นก็มีนายบัวลอยติดต่อมาให้เอาดินมาลงอีกตนเข้าใจว่าเป็นเจ้าของเดียวกันจึงได้เอาดินมาลงตามที่ว่าจ้าง โดยนายบัวลอยได้จ่ายค่าดินมาบางส่วนตนได้ติดตามส่วนที่ค้างอยู่ตลอดจนล่าสุดไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน
ต่อมาผู้เสียหายไปเจอกับภรรยาของนายบัวลอย ขณะพาลูกค้ารายใหม่จะไปทำสัญญาสร้างบ้านหลังใหม่กับทางธนาคาร จึงได้มีการทวงถามที่ไม่ทำงานต่อให้แล้วเสร็จ ต่อหน้าลูกค้ารายใหม่ที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อ ทำให้เมียของนายบัวลอย รีบเดินหนีออกไปจากธนาคาร โดยไม่ยอมพูดจากับกลุ่มผู้เสียหาย ทำให้ยังไม่สามารถตกลงกันได้
และถือเป็นโชคดีของลูกค้ารายใหม่ ที่มาพบกับเหตุการณ์ ขณะกำลังจะมาทำสัญญาจ้างให้นายบัวลอยสร้างบ้าน จึงยกเลิกความตั้งใจที่จะมาซื้อบ้านในโครงการของนายบัวลอย
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
