ตรัง พี่ชายและผู้สมัครส.อบต.บ่อน้ำร้อน แจงกรณีปิดทางเข้าระบบประปาหมู่บ้าน
จากกรณีที่เกิดเหตุชาวบ้านกว่า 50 คน เดินทางเข้าที่ทำการ อบต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง เข้าหารือขอความช่วยเหลือเพื่อหาทางออกบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านเรื่องของน้ำประปาหมู่บ้านถูกปิด ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 150 ครัวเรือน 300 กว่าคน โดยชาวบ้านอ้างว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หลังจากที่นายสุขุม เรืองฤทธิ์ พี่ชายของนางภัทรา สู้ณรงค์ ผู้สมัคร ส.อบต หมู่ 9 ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง โดยนายสุขุมเจ้าของที่ดินได้นำป้ายระบุข้อความ “ห้ามเข้าที่ดินส่วนบุคคล”และไม้ไผ่ปิดกั้นทางเข้า และป้ายข้อความติดที่เสาไฟมีข้อความว่า “ห้ามใช้สระพักน้ำเด็ดขาด” ซึ่งในที่ดังกล่าวมีระบบน้ำบาดาล มีถังเก็บพักน้ำและเครื่องจักรผลิตน้ำประปาหมู่บ้านตั้งอยู่
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ระบบประหมู่บ้าน ตั้งหลังบ้านเลขที่ 127 ม.9 ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง โดยนายสุขุม เรืองฤทธิ์ อายุ 60 ปีพี่ชายของนางภัทรา สู้ณรงค์ อายุ 50 ปี ผู้สมัคร ส.อบต.เขต 9 ได้พาผู้สื่อข่าวดูที่ตั้งระบบประปาหมู่บ้านพร้อมกับแสดงโฉนดที่ดินจำนวน 2 แปลงให้ผู้สื่อข่าวดู โดยโฉนดดังกล่าวระบุชื่อนายสุขุมเป็นเจ้าของที่ดินทั้งสองแปลงซึ่งมีเนื้อที่ติดต่อกัน
นายสุขุม กล่าวว่า ที่ชาวบ้านกล่าวอ้างว่าตนไปประกาศว่าหากนางภัทรา (น้องสาว) แพ้การเลือกตั้ง ส.อบต.นั้นตนยืนยันไม่เป็นความจริง ส่วนสาเหตุที่ต้องปิดไม่ให้เข้าพื้นที่เพราะอยู่ในช่วงโควิด 19และต้องการให้ทีมนายกอบต.ชุดใหม่เข้ามาเจรจาวางกติกาการใช้พื้นที่ร่วมกันเพราะที่ดินบริเวณที่ตั้งระบบประปาและสระน้ำ ตนไม่ได้อุทิศให้ราชการแต่อย่างใด แต่อนุญาตให้ใช้ที่ดินกว้าง 20 เมตร ยาว 20 เมตร ซึ่งวางระบบประปาเมื่อปี 2540 ซึ่งตอนนั้นตนมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบันนี้ทำให้หลายคนเข้าใจว่า ทั้งสระน้ำและที่ตั้งระบบประปาเป็นที่ดินสาธารณะไปแล้ว ตนจึงจำเป็นต้องปิดและต้องการทำข้อตกลงร่วมกันกับ อบต.ในการใช้พื้นที่อาจจะเป็นในรูปแบบของสัญญาเช่า หรืออื่นๆ ตามความเหมาะสม
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง เปิดความสวยงาม "เขาแบนะ-อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม" เส้นทางศึกษาธรรมชาติเลียบภูเขาชมทะเลงาม
- กลุ่มศึกษากลุ่มชลประทานลงพื้นที่ ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยชัน จ.ปราจีนบุรี
- ตรัง จี้ซ่อมด่วนก่อนปิดท่าเรือปากเมงทรุด กระเบื้องร่วง-โป๊ะพัง-รังแตนอาละวาด หวั่นนักท่องเที่ยวอันตรายถึงชีวิต
- รองผู้ว่าฯปราจีนบุรี ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาช้างป่ารุกพื้นที่ชุมชน
ด้านนางภัทรา บอกว่า ตนและครอบครัวได้ทำทุกอย่างเพื่อสังคมมามากแล้ว แต่เมื่อกระแสข่าวออกไปก็รู้สึกเสียใจ ซึ่งต้องคนต้องเข้าใจว่าช่วงนี้เป็นช่วงโควิด และตอนนี้หมดวาระแล้ว หากเอาสระคืนมาได้ก็จะเอาสระกลับมาเลี้ยงปลาเป็นอาชีพเสริม ซึ่งน้ำตรงนี้เมื่อก่อนก็สูบน้ำจากสระน้ำมากรองและพักในบ่อน้ำก่อนส่งจ่ายให้ชาวบ้าน เป็นเวลา 2-3 ปี แต่เมื่อเห็นชาวบ้านเดือดร้อนเราก็เห็นใจเพราะน้ำเป็นสนิม ซึ่งก่อนหน้านี้สมัยนายกฯคนก่อนก็มาคุยกับเราว่าขอใช้สระน้ำเพื่อพักน้ำ แต่ตอนนี้นายกอบต.คนเก่าหมดวาระ คนใหม่ก็ยังไม่ได้เข้ามาพูดคุยแต่อย่างไร และกลัวว่าหากเปิดให้เป็นที่สาธารณะนานๆจะกลายเป็นของสาธารณะจริงๆ ทางพี่ชายบอกว่าเมื่อหมดวาระแล้วเราก็ขอคือสระน้ำ ซึ่งในการขอคืนสระน้ำและปิดทางเข้าก็ไม่ได้พูดคุยหรือแจ้งทางอบต.และชาวบ้านก่อน เมื่อพอเกิดเรื่องเข้าใจว่าชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนและไปเกี่ยวข้องในเรื่องการเมืองด้วย ซึ่งจริงๆอยากให้ทางชาวบ้าน กำนัน อบต.เข้ามาคุยกับเราก่อนและชวนกันไปประท้วงที่หน้าอบต.เลย และจากที่ได้ปิดทางเข้าเพราะไม่อยากให้เจ้าหน้าที่นำน้ำมาเติมในสระเพื่อนำไปใช้ในระบบประปาหมู่บ้าน เลยต้องปิดทางเข้าก่อน แต่หากเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเปิดระบบประปาหมู่บ้านก็สามารถเข้ามาเปิดได้ตามปกติแต่น้ำไม่มีในระบบ เนื่องจากไม่อนุญาตให้ใช้สระ แต่หากจะแก้ไขอย่างไรนั้นก็อยากให้หลายฝ่ายมาพูดคุยกับเราก่อน และสระตรงนี้เราจะนำกลับมาใช้ประโยชน์ของเราเอง หรือทางอบต.จะมาขอเช่าพื้นที่สระตรงนี้ก็ให้เข้ามาพูดคุย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: