นครศรีธรรมราช : เมืองคอนเจอวิกฤตน้ำท่วม ทั้ง 23 อำเภอ ประชาชนแตกตื่น เตรียมขนย้ายข้าวของไปอยู่ในที่ปลอดภัย หลังเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยกธงสีแดง แจ้งเตือนอพยพ พร้อมเตรียมเปิด 10 ศูนย์รองรับ ขณะหญิงสาวพาลูกพิการวัย 9 ขวบ หนีน้ำอย่างทุลักทุเล
วันที่ 2 ธันวาคม 2564 หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน ติดต่อกัน 2 วัน 2 คืน ในหลายพื้นที่ของ จ.นครศรีธรรมราช จนถึงขณะนี้ บรรยากาศโดยทั่วไปยังมีฝนตกลงมา อากาศมืดครึ้มเกือบตลอดทั้งวัน และมีรายงานน้ำท่วมทั้ง 23 อำเภอ ปริมาณฝนสะสมในรอบ 12 ชั่วโมงกว่า 100 มิลลิเมตร ในพื้นที่ต้นน้ำ
ส่งผลให้น้ำไม่สามารถระบายออกลงสู่ทะเลได้ทัน จึงเอ่อล้นเข้าท่วมถนน บ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตร โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจตัวเมือง เทศบาลนครนครศรีธรรมราชต้องยกธงแดง แจ้งเตือนสถานการณ์เฝ้าระวังระดับสูงสุด พร้อมประกาศเสียงตามสายให้ประชาชนเตรียมอพยพข้าวของขึ้นที่สูง หรือไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากมวลน้ำมหาศาลกำลังมา คาดว่าจะเข้าสู่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในคืนนี้ หลังมวลน้ำสีแดงขุ่นไหลลงคลองคีรีวง ก่อนจะไหลผ่านเข้าสู่ตัวเมือง
ข่าวน่าสนใจ:
- รับสมัคร นายก อบจ.มหาสารคาม "คมคาย"ตัวเต็งจับมือ"อ้ายเปิ้ล"สัญญาสู้กันในเกมส์
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- บรรยากาศคึกคัก รับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ. ส.อบจ. สกลนคร วันแรก
- เชียงใหม่รับสมัคร นายก อบจ.สุดคึก ดุเดือด แน่
ถนนแทบทุกสายรถเล็กไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ ขณะที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่างเร่งระดมทำสัญลักษณ์เพื่อบอกเส้นทาง และป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น
ส่วนพื้นที่รอบนอก ปริมาณน้ำในคลองหนองบัว ต.ไชยมนตรี อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคลองขนาดใหญ่รับน้ำมาจากคลองท่าดี ที่ไหลลงมาจากน้ำตกคีรีวง อ.ลานสกา ก่อนไหลเข้าสู่ตัวเทศบาลเมืองนครนครศรีธรรมราช กระแสน้ำยังคงไหลแรง และมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ใกล้ถึงขอบตลิ่ง
บ้านเรือนที่อยู่ติดลำคลองบางจุดที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน และไหลผ่านถนน ระดับน้ำสูงประมาณ 40-50 ซม. ชาวบ้านพากันนำรถออกมาจอดในที่สูงด้านนอกเพื่อหนีน้ำ
ที่บ้านเลขที่ 39/3 ม.3 ต.ไชยมนตรี นางอรวรรณ จงรักจิตต์ อายุ 23 ปี ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งอยู่กับลูกชายวัย 9 ขวบ ที่พิการมาแต่กำเนิด เปิดเผยว่า น้ำไหลเข้าท่วมบ้าน เมื่อเวลา 13.00 น. โดยไม่ทันระวัง จึงขนของหนีน้ำไม่ทัน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่างเสียหาย ไม่รู้ว่าน้ำจะมีมาเพิ่มอีกหรือไม่ ห่วงแต่ลูกชาย คือ น้องปังปอนด์ ด.ช.อักษรเทพ อมรชร ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงต้องรีบพาหนีน้ำขึ้นมาอยู่ชั้นบน
“กังวลใจอย่างมาก ฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ที่สำคัญลูกชายก็ส่งเสียงร้องดังอยู่ตลอดเวลา เพราะกลัวเสียงฟ้าร้อง” นางอรวรรณ กล่าวด้วยท่าทีกังวล
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบริเวณนี้อาศัยเดินลุยน้ำออกไปร้านค้าเพื่อหาซื้อข้าวของสิ่งจำเป็นมาเก็บตุนสำรองไว้ หลังทราบว่ายังคงมีมวลน้ำอีกจำนวนมากที่กำลังทยอยไหลเข้ามาสมทบอยู่เรื่อย ๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: