ตรัง คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนนานาชนิดยิงถล่มบ้าน อดีตรองนายกอบต.วังวน อ.กันตัง สภาพบ้านบ้านพรุน โชคดีคืนวันเกิดเหตุไปมีใครอยู่ในบ้าน
วันที่ 6 ธันวาคม 2564 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.กันตัง เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 72/1 บ้านกลาง ม. 3 ต.วังวน อ. กันตัง จ.ตรัง ลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ติดริมถนนสายบ้านกลาง- บ้านแหลม หลังรับแจ้งเหตุโดนคนร้ายถล่มยิงบ้านเมื่อเวลา 01.00 น. ของวันนี้ ในที่เกิดเหตุมีชาวบ้านในละแวกมุงดูเหตุการณ์
จากการตรวจสอบพบกระสุนเจาะเข้ามากกว่า 10 นัด โดยเข้าที่หน้าบ้าน ฝาผนังบ้าน ประตูไม้หน้าบ้าน ช่องกระจกบนประตู จำนวน และหลังคารถยนต์กระบะ ป้ายทะเบียนบพ 1805 ตรัง จำนวน 1 คัน พบหัวกระสุนและหมอนรองกระสุนตกอยู่ที่พื้นหน้าบ้าน ใต้ล้อรถ หลายหัว ส่วนบริเวณริมถนนฝั่งตรงข้ามหน้าบ้านห่างกันประมาณ 8-10 เมตร พบปลอกกระสุนนับ10 ปลอก พบวัตถุพยานจำนวน 8 จุด ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุคาดน่าจะเป็นอาวุธปืนลูกซอง และปืนลูกโม่ไม่ทราบขนาด
สำหรับบ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านของนายประทีปหรือบังเดช ณะสม อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นอดีตรองนายกอบต.สมัยที่ผ่านมา แต่สมัยนี้ไม่ได้ลงสมัคร แต่มาช่วย น.ส.มล ณะสม อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นน้องสาว ลงสมัครนายกอบต.แทน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานและส่งตรวจวิถีกระสุนเร่งหาตัวคนร้าย โดยแนวทางการสืบสวนสอบสวนตำรวจคาดว่าคนร้ายหมายจะเอาชีวิตเจ้าของบ้านเนื่องจากใช้อาวุธปืนจำนวน 12 นัด จำนวน 2 กระบอก ซึ่งคิดว่าเจ้าของบ้านอยู่บ้านเนื่องจากมีรถจอดอยู่หน้าบ้านจึงยิงถล่มเข้าไป แต่โชคดีในวันเวลาดังกล่าวนายประทีปเจ้าของบ้านไม่ได้พักอาศัยอยู่ในบ้านแต่ใช้รถยนต์อีกคันเดินทางไปจังหวัดภูเก็ตเพื่อประมูลกุ้ง
ด้านนางสาววนิดา ณะสม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 /2 ม.3 ต.วังวน อ.กันตัง ซึ่งเป็นลูกสาวของบังเดช เล่าว่า ตนเองก็ไม่ได้อยู่ตอนในช่วงเกิดเหตุ ส่วนบ้านหลังนี้ปกติจะอยู่กัน 3 คน มีพ่อ แม่เลี้ยงและน้องอายุ15 ปี โดยตนเองแยกออกไปมีครอบครัวของตนเอง ส่วนพ่อมีอาชีพเลี้ยงรับซื้อกุ้งและชอบลงเล่นการเมืองท้องถิ่น โดยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอยู่บ้าน และตอนเกิดเหตุพ่อไปประมูลกุ้งที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเกิดเหตุก็มีชาวบ้านโทรมาบอกและก็เข้ามาที่บ้านเช้าวันนี้ และได้โทรบอกพ่อว่าบ้านโดนยิง และแจ้งตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งพ่อกำลังเดินทางกลับจากภูเก็ต ส่วนสาเหตุตนไม่รู้เรื่อง แต่จะเป็นเพราะเรื่องการเมืองท้องถิ่นไหมนั้นพ่อก็ไม่เคยเล่าว่ามีปัญหาขัดแย้งกับใคร
ด้านนางวิระ วงศ์ศิลา อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/2 เพื่อนบ้านบ้านติดกัน เล่าว่าตอนเกิดเหตุนั้นประมาณตี1 ซึ่งตนเองกำลังนอนหลับอยู่ส่วนแฟนออกไปกรีดยางพารา ได้ยินเสียงดังมากประมาณ 4 นัดได้ ตกใจมากรู้สึกกลัวด้วยคลุมผ้าห่มเลย สั่นไปทั้งตัว เพราะอยู่คนเดียวด้วยเสียงปืนดังได้ยินชัดมากเพราะติดกับบ้านของตนเองเลย ไม่กล้าออกมาดูเลย ส่วนเสียงรถก็ไม่ได้ยินเลยเพราะช่วงนั้นกำลังหลับอยู่ แต่ตอนเสียงปืนดังหมาเห่าเสียงดังมาก ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย โดยส่วนตัวก็รู้จักกับบังเดชเจ้าของบ้านเป็นคนนิสัยดี เป็นเพื่อนบ้านที่ดี เท่าที่รู้ไม่เคยมีปัญหากับใคร จะไม่ค่อยอยู่บ้านอยู่แต่บ่อกุ้งซะส่วนใหญ่ และจะเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งไหมนั้นก็ไม่มีเพราะที่นี่ไม่ได้มีอะไรรุนแรง
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมสอบพยานแวดล้อมและนายประทีปหรือบังเดช ณะสม ว่ามีความขัดแย้งอะไรกับใครหรือไม่
ทั้งนี้นายประทีปหรือบังเดช เคยเป็นแกนนำร้องเรียน กรณีสวนปาล์มน้ำมัน 600ไร่ ต.วังวนเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ซึ่งเคยถูกข่มขู่และเคยถูกติดตาม และได้เข้าแจ้งความที่สภ.กันตัง ส่วนสาเหตุนั้นทางตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งทั้งปมการเมืองท้องถิ่น สวนปาล์มน้ำและความขัดแย้งส่วนตัว
