นราธิวาส-จับสองสามีภรรยา พร้อมกัญชาอัดแท่ง 1,680 ก.ก.มูลค่า 50 ล้านบาท
เมื่อเวลา 22.30 น.ของคืนวันที่ 8 ธ.ค.2564 พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้สั่งการไปยัง พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.ตากใบ โดยได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.สุริยา จอมสุริยะ สารวัตรสืบสวน สภ.ตากใบ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ตากใบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำกองกำกับการ 7 หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวจะมีการลำเลียงยาเสพติดไปยังประเทศมาเลเซียโดยทางเรือ
ต่อมา พ.ต.ต.สุริยา จอมสุริยะ สารวัตรสืบสวน สภ.ตากใบ จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่นั่งรถยนต์กระบะและขี่รถ จยย.ไปตรวจสอบบริเวณรายรอบของชายทะเลบ้านกูบู ม.6 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ พบรถยนต์เทรลเลอร์ 18 ล้อ ยี่ห้อ HINO สีแดง หมายเลขทะเบียน 87-2674 สระบุรี ซึ่งบรรทุกท่อนไม้ยูคาลิปตัส เต็มคันรถจอดอยู่ โดยมีนายสุภัทร คะทะวะรัตน์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 2 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส และ น.ส.ช่อผกา อภัยสวัสดิ์ อายุ 24 ปี อยู่ 64/1 หมู่ 3 ต.น้ำรอบ อ.พุนพิน จ.สุราษฏร์ธานี ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นสามีภรรยากัน กำลังนั่งอยู่ในห้องโดยสาร เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น
พบที่บริเวณพ่วงท้ายมีพิรุธ จำนวน 2 จุด ซึ่งห่างกัน 3 เมตร โดยมีท่อนไม้ยูคาลิปตัสปิดอำพรางไว้
โดยจุดที่ 1.เจ้าหน้าที่ได้นำท่อนไม้ยูคาลิปตัสออก พบของกลางเป็นกัญชาแห้งอัดแท่ง ห่อด้วยกระดาษฟลอยด์สีบรอนซ์ทอง พันด้วยเทปใส บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยสีขาว และห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกทึบแสงสีดำอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 20 กระสอบๆละ 50 แท่ง น้ำหนัก 1,051 กิโลกรัม
จุดที่ 2. เจ้าหน้าที่พบกัญชาแห้งอัดแท่ง บรรจุและห่อด้วยวัสดุแบบเดียวกันอีก จำนวน 14 กระสอบๆละ 44 แท่ง น้ำหนัก 629 กิโลกรัม ซึ่งทั้ง 2 จุดมีกัญชาอัดแท่งรวมทั้งสิ้น 1,680 กิโลกรัม ซึ่งถ้าสามารถเล็ดลอดไปยังประเทศมาเลเซียจะมีมูลค่าถึง 50 ล้านบาท
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนายสุภัทร คะทะวะรัตน์ ในเบื้องต้น โดยให้การว่า ตนได้รับจ้างขับรถยนต์เทรลเลอร์มาจาก จ.นครพนม เป็นครั้งแรก ซึ่งได้ซุกซ่อนกัญชาอัดแท่งโดยมีท่อนไม้ยูคาลิปตัสปิดอำพรางไว้ ให้นำมาจอดที่ชายทะเลบ้านกูบู โดยจะมีคนมารับพร้อมขนย้ายลงเรือเพื่อส่งเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางพร้อมแจ้งดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันมีนาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชาแห้งอัดแท่ง ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนไปถึงเจ้าของรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ ว่ามีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลางหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
