สงขลา – สะเดา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 บินด่วนวางกำลังสกัดเชื้อไวรัสโควิด -19 สายพันธุ์ใหม่ (โอมิครอน ) ตามแนวชายแดนไทยมาเลเซีย และมาตรการรองรับการเปิดประเทศ (Covid Free Setting) 
วานนี้ ( 10 ธันวาคม 2564 ) เวลาประมาณ 15:00 น. พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค รอง มทภ. 4 / รอง ผบ.ศปก.ทภ.4 เดินทางมาที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ถนนกาญจนวนิช ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา จังหวัดสงขลา เพื่อประชุมติดตามและมอบนโยบายการสกัดกั้นป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 สายพันธุ์ใหม่ (โอมิครอน) ตามแนวชายแดนไทย – มาเลเซีย และมาตรการรองรับการเปิดประเทศ ( Covid Free Setting )
โดยมี โดยมี พล.ต.วรเดช เดชรักษา ผบ.พล.ร.5 กองกำลังเทพสตรี พ.อ.ธนิตพนธ์ หงษ์วิไล ผบ.ฉก.ร5 พ.ท.จตุพร ธานีพัฒน์ เสธ.ฉก.ร.5 และ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ให้การต้อนรับ
พร้อมกันนั้น รอง มทภ.4 / รอง ผบ.ศปก.ทภ. 4 ได้ตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติงาน ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์บริเวณแนวชายแดน หลักเขตแดนที่ 23/35 ซึ่งได้เน้นย้ำให้กำลังพลตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ในการสกัดกั้นแนวชายแดน ไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การค้ามนุษย์, การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันตนเองและป้องกันโรค ของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งมอบของตรวจเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจตระเวนชายแดน
สำหรับพื้นที่ชายแดนไทย – มาเลเซีย ด้าน อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พบว่ายังมีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมีการอาศัยช่องทางธรรมชาติเป็นเส้นทางของแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 4 คน บริเวณ หลักเขตแดนที่ 21/13 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งสถานีตำรวจภูธรสะเดา เพื่อดำเนินการกักตัว ณ สถานกักกัน OQ และดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค บอกว่า แม่ทัพภาค 4 มีความห่วงใยในพื้นที่แนวชายแดน เนื่องจากตอนนี้สถานการณ์โควิด- 19 สายพันธุ์พันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาด โดยมีต่างด้าวทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซียเข้ามาประเทศไทย และจากประเทศไทยไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ซึ่งตอนนี้มาเลเซียและไทยใกล้เปิดประเทศ มีความต้องการแรงงานจำนวนมากมาก นั่นจะทำให้มีการลักลอบเพิ่มขึ้นและอาจเป็นพาหะนำเชื้อโควิดฯ เราต้องพยามสกัดแรงงานเถื่อนจากต้นทาง หรือถ้าเล็ดลอดมาก็พยามสกัดตามเส้นทางให้ได้
ส่วนการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศมาเลเซีย ฉีดวัคซีนแล้ว จำนวน 25,476,738 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 78 จากประชากรทั้งหมด ยอดติดเชื้อสะสม 2.7 ล้าน และรัฐชายแดนที่ติดประเทศไทย เช่นรัฐเปอร์ลิส มียอดผู้ติดเชื้อ 6,680 คน และรัฐเคดาห์ 162,970 คน ซึ่งการเจรจาการเปิดด่านฯขึ้นอยู่กับ ศบค.ส่วนหน้า ในการประชุมร่วมกับ ศบค.ส่วนกลาง เพื่อพิจารณาเปิดประเทศต่อไป
