X

ลำปางเข้ม ตรวจวัดควันดำท่อไอเสีย แก้ปัญหาลดมลพิษฝุ่น PM 2.5

ที่บริเวณเส้นทางถนนสายหลัก พหลโยธิน หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าลำปาง ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง โดยมีนายสุรพล บุรินทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick Off พร้อมนำทีมเจ้าหน้าที่และเจ้าพนักงาน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมออกปฏิบัติการตรวจวัดควันดำรถ ซึ่งการดำเนินการตรวจวัดควันดำดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจวัดด้วยเครื่องมือระบบวัดความทึบแสง ของกรมควบคุมมลพิษ โดยหากตรวจวัดค่าควันดำได้เกินกว่าร้อยละ 45 ทางเจ้าหน้าที่จะมีการออกคำสั่งห้ามใช้รถชั่วคราว และให้เจ้าของรถต้องนำรถไปปรับปรุงแก้ไขให้มีค่าควันดำเป็นไปตามมาตรฐานภายใน 30 วัน หากฝ่าฝืนคำสั่งห้ามจะมีความผิดตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และหากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ จะมีโทษจำคุกสูงสุด 1 เดือน ปรับสูงสุด 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ทั้งนี้ สำหรับการดำเนินการตรวจวัดควันดำดังกล่าว นายระพีศักดิ์ มาลัยรุ่งสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 2 (ลำปาง) ได้กล่าวว่า จังหวัดลำปาง ถือเป็นจังหวัดที่มีเส้นทางสัญจรหลักไปสู่จังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน จึงเป็นจุดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มาจากภาคการจราจรและการขนส่ง และจากการที่รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหาผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน เป็นวาระแห่งชาติ จังหวัดลำปางได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญในการที่จะป้องกันแก้ไขปัญหา จึงได้ร่วมเป็นพื้นที่เป้าหมายนำร่อง ดำเนินโครงการ “เฝ้าระวังติดตามตรวจสอบและควบคุมมลพิษทางอากาศด้านการขนส่ง” ดำเนินกิจกรรมตรวจจับควันดำจากยานพาหนะ

โดยส่วนหนึ่งเพื่อต้องการรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความตระหนักในการที่จะดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์ยานพาหนะให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอีกส่วนหนึ่งเพื่อต้องการให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับรถยนต์ที่มีค่าควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้นำไปสู่การควบคุมป้องกันมลพิษอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือที่เรียกว่าฝุ่น PM 2.5 ได้ ส่วนในการตรวจวัดควันดำครั้งนี้ รถยนต์ที่มีค่าควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดจะถูกติดสติ๊กเกอร์ “ห้ามใช้ชั่วคราว” เพื่อให้เจ้าของรถได้นำรถไปแก้ไขปรับปรุงเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ภายใน 30 วัน หากพ้นกำหนดแล้วแต่ยังไม่มีการแก้ไขปรับปรุง จะถูกสั่ง “ห้ามใช้เด็ดขาด” โดยจะสามารถเคลื่อนย้ายรถได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เท่านั้น และสำหรับเครื่องหมาย “ห้ามใช้ฯ” นี้ห้ามมิให้เจ้าของรถฉีก/แกะโดยเด็ดขาด เพราะจะมีความผิดทางอาญาด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน