หนุ่มวัย 28 ปี ชาวบุรีรัมย์ บุกเดี่ยว ใช้หินทุบประตูกระจกของธนาคาร เข้าไปหวังจะขโมยเงิน พลาดถูกกระจกบาดเป็นแผลลึก แถมไม่ได้ทรัพย์สินมีค่าไปเลย ก่อนจะเดินออกไปที่ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งอยู่ไม่ห่าง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตัวทันควัน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลก่อนนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 19 ธันวาตม 2564 พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้นับแจ้งมีคนร้ายทุบกระจกประตูธนาคารกสิกร สาขาเทพารักษ์ กม .16 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
- ผอ.ชลประทานที่ 17 นำ 'พ่อเมืองนราฯ' ตรวจความพร้อมรับมืออุทกภัย
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
ที่เกิดได้พบว่ากระจกบานประตูทางเข้าธนาคารด้านหน้า ถูกทุบจนแตกละกระจายและมีคราบเลือดหยดตามพื้น เป็นทางยาวมาจนถึงหน้าตู้เอทีเอ็มจำนวนมาก และพบก้อนหินที่คนร้ายใช้ก่อเหตุตกอยู่ภายในธนาคาร รวมทั้งภายในมีการรื้อค้นข้าวของตามโต๊ะต่างๆ จนข้าวของกระจัดกระจายแต่ไม่มีทรัพย์สินสูญหายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้เดินแกะลอยหยดเลือดมาจนถึงร้านสะดวกซื้อที่อยู่ห่างจากธนาคารที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร และได้พบคนร้ายเป็นชายนั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อร้านดังกล่าว ที่ฝ่ามือข้างขวามีบาดแผลฉกรรจ์และเลือดไหลออกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อโดยแพทย์ได้ทำการเย็บบาดแผลให้ ก่อนเจ้าหน้าที่จะคุมตัวชายคนดังกล่าวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.บางพลี แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสอบปากคำได้เนื่องชายคนดังกล่าวอยู่ในสภาพมึนเมาสุรา
พ.ต.อ. วิโจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยหลังจากเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ คือชื่อนาย กฤษฎา มาตรกำจร อายุ 28 ปี ชาวอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งยอมรับว่าได้ใช้ก้อนหินขนาดใหญ่หนักประมาณ 1 กิโลกรัม ทุบกระจกประตูของธนาคารเพื่อหวังที่เข้าไปเอาเงินสดมาซื้อสุรา ดื่มแต่เกิดพลาดถูกกระจกบาดเจ็บได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีทรัพย์สินใด ๆ สูญหาย แต่คนร้ายหลังจากที่เข้าไปในธนาคารได้ก็พยามเดินรื้อหาเงินสดตามเคาน์เตอร์ของธนาคาร พอไม่ได้เงินจึงเดินออกมาหาพนักงานที่ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าชายคนดังกล่าวเป็นลูกค้าประจำที่มาซื้อของในร้านสะดวกซื้อแห่งนี้อยู่เป็นประจำ
เบื้องต้นผู้ต้องหายังอยู่ในอาการเมาสุรา ยังไม่สามารถสอบปากคำอย่างละเอียดได้ ต้องรอให้เจ้าตัวสร่างจากเมาเสียก่อน จึงจะสอบสวนได้ แต่ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา บุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืนและทำให้เสียทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: