พระนครศรีอยุธยา-ประชาชนชื่นชมความงดงามตระการตาขบวนแห่ เปิดงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลกสุดยิ่งใหญ่อลังการ
บ่ายวันที่ 17 ธค นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน และนักท่องเที่ยว ร่วมชมขบวนแห่สุดอลังการ รวม 8 ขบวน 8 ยุคสมัย ได้แก่ ขบวนสมัยสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง สมเด็จพระเจ้าสามพระยา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม สมเด็จพระนารายณ์ สมเด็จพระบรมโกศ และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตามลำดับ
จากนั้นมีพิธีเปิดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2564 ในเวลา 18.00 น. ณ เวทีกลาง บริเวณด้านหน้าบึงพระราม เยี่ยมชมกิจกรรมร้านกาชาด ชมการแสดงแสง-เสียง รอบปฐมทัศน์ บริเวณด้านหลังวัดมหาธาตุ โดยทางจังหวัดเชิญชวนทุกท่านแต่งกายผ้าไทย ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 แสดงวัคซีน 2 เข็ม บัตร 1 ใบ เที่ยวงานอยุธยามรดกโลก อย่างปลอดภัย วิถีใหม่ New Normal
นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธีเปิดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2564 พร้อมมอบรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศขบวนแห่ ให้กับผู้นำขบวนที่ร่วมเดินแสดงความงดงามย้อนถึงความเป็นมาของกรุงศรีอยุธยา และความรุ่งเรืองในยุคสมัยต่าง ๆ จากหน่วยงานราชการและภาคเอกชน จากนั้น ประธานฯ ได้ทำพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยมี แขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธีเปิดอย่างคึกคัก
นายวีระชัย นาคมาศ กล่าวว่า งาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 26 ธันวาคม 2564 ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพื่อเฉลิมฉลองที่ยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งได้จัดต่อเนื่องจนถึงปีนี้เป็นปีที่ 30 หรือครบรอบ 3 ทศวรรษ สำหรับปีนี้ มีความพิเศษโดยมีเอกชนได้ขอมีส่วนร่วมในการนำ “นิทรรศการแห่งแสง” มาแสดงในงาน นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์จากลานวัฒนธรรม นำลิเกร้อยล้าน ศรราม น้ำเพชร ลูกหลานชาวอยุธยา โขน ละครหุ่นโจหลุย และศิลปินดังสลับหมุนเวียนมาให้ความสุข อีกทั้งภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมายมาย อาทิ เช่น ขบวนแห่การเฉลิมฉลองมรดกโลก การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรสินค้า OTOP ถนนกินเส้น ถนนกินกุ้ง ลานวัฒนธรรม นิทรรศการนวัตกรรมส่วนราชการ ตลาดย้อนยุค การแสดงแสง-เสียง และอีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญคือการออกร้านกาชาด และจำหน่ายสลากกาชาดการกุศล เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีส่วนสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ กล่าวว่า นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อดีตเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของชนชาติไทย และเป็นศูนย์กลางการค้าแห่งสำคัญของโลก การที่นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก ด้วยคุณลักษณะที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ที่หาได้ยากยิ่ง และมีพยานหลักฐานแสดงขนบธรรมเนียมประเพณี หรืออารยธรรมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ นอกเหนือจากโบราณสถาน โบราณวัตถุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องการเลือกสรรตำแหน่งที่ตั้งของพระนครที่เหมาะสมกับลักษณะของผังเมือง ชุมชน ที่อาศัยการสัญจรทางน้ำเป็นหลัก การใช้แม่น้ำเป็นยุทธศาสตร์ในการป้องกันเมือง ตลอดพื้นที่โดยรอบ อุดมสมบูรณ์ เป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญ นับเป็นความชาญฉลาดของบรรพบุรุษเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ เมื่อนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ประชาชนชาวไทยต่างมีความรู้สึกภาคภูมิใจ และยินดีกับเกียรติภูมิที่ได้รับเป็นอย่างยิ่ง ถือเสมือนหนึ่งเป็นการยอมรับความยิ่งใหญ่ของชนชาติไทยที่เจริญรุ่งเรืองมาแต่อดีต ดังนั้น ชาวไทยทุกคนจะต้องรู้ถึงคุณค่า ร่วมกันบำรุงรักษา และอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกของลูกหลานสืบไป หลังจากนั้น ได้เดินทางเยี่ยมชมร้านกาชาด และเดินชมบรรยากาศรอบงาน พร้อมชื่นชมความตระการตาของการแสดงแสงเสียง อีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: