สุราษฎร์ธานี- พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จำนวน 3 ราย สสจ. วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนกขอให้ตระหนักในมาตรการป้องกันตนเอง
วันนี้ (20 ธ.ค.64) ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงข่าวภายหลังจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน จำนวน 3 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานนานาชาติสมุย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 จำนวน 1 ราย และวันที่ 16 ธันวาคม 2564 จำนวน 2 ราย ตรวจพบเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน วันที่ 19 ธันวาคม 2564 ผู้ป่วยทั้ง 3 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 57 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 8 คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในระบบมาตรการควบคุมโรค ส่วนผู้ป่วยทั้ง 3 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกาะสมุย
นายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายที่ 1 เพศหญิง อายุ 34 ปี สัญชาติอังกฤษ ประเทศต้นทางมาจากประเทศอังกฤษ ต่อเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์ก่อนเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางมายัง อ.กาะสมุย ด้วยไฟล์ทบิน PG 5125เวลา 13.30 น. เดินทางมาพร้อมกับสามี (สามีตรวจไม่พบเชื้อ) ผู้ป่วยรายที่ 2 เพศชาย อายุ 55 ปี สัญชาติเบลเยี่ยม ประเทศตันทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เปลี่ยนเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนมาต่อเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางมา อ.กาะสมุย ด้วยไฟส์ทบิน PG 5171 เวลา 18.40 น. และผู้ป่วยรายที่ 3 เพศชาย อายุ 56 ปี สัญชาติอังกฤษ ประเทศต้นทางมาจากประเทศอังกฤษ เดินทางมาเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนเดินทางมายัง อ.เกาะสมุย ด้วยไฟล์ทบิน PG 962 เวลา 20.30 น. เดินทางมาพร้อมภรรยา (ตรวจพบเชื้อโควิดรอผลวิเคราะห์สายพันธุ์)
ด้านนายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีวันนี้ มีผู้ป่วยรายใหม่ 66 ราย สะสมดั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2564 จำนวน 28,216 ราย เสียชีวิต 151 ราย สำหรับสถานการณ์ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชน เน้นปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันควบคุมโรคส่วนบุคคล ครัวเรือน และสังคม สิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่บุคคลสามารถทำได้ คือการรักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตรจากผู้อื่น สวมหน้ากากให้ถูกต้องและเหมาะสม เปิดหน้าต่างเพื่อให้มีการระบายอากาศที่ดี หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัดหรือมีผู้คนพลุกพล่าน หมั่นล้างมือสม่ำเสมอ และรับการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วนรวมทั้งหมั่นทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส โดยขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ให้ตระหนักในมาตรการป้องกันตนเอง.
