ปราจีนบุรี – แม่ค้าสาวใน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ร้องเรียนเกือบเสียท่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ หวิดสูญเงิน จำนวน 8 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากแม่ค้าขายส้มตำ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ว่าเกือบโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังตลาดบ้านแดง ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พบ น.ส.สิริยากร (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของร้าน “ฟิล์ม ส้มตำรสเด็ด” โดย น.ส.สิริยากร ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะที่ตนกำลังขายของอยู่ที่ร้าน ได้มีหมายเลขโทรศัพท์ 060-0036023 โทรเข้ามาที่เครื่องของตน และได้ทำการพูดคุยโดยปลายสายได้อ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยแจ้งข้อหาว่า ตนกับพวกอีก 2 คน ได้รับจ้างเปิดบัญชีเพื่อฟอกเงิน จำนวน 8 ล้านบาท และคนที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ให้ตนเองแอดไลน์เข้าไปในกลุ่มของ สภ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งตนเองก็แอดเข้าไป และได้ทำการคุยทางเสียงกันผ่าน app line หลังจากนั้นได้มีการส่งรูปบัตรของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ ” ร.ต.อ. ” ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของคดีนี้ และได้ส่งหมายจับมาให้ตนดูอีกด้วย
ทั้งนี้ น.ส.สิริยากร กล่าวอีกว่า ตนเองไม่เคยรู้จักกับอีก 2 คน นั้นเลย และยังรู้สึกงงกับหมายจับที่หัวกระดาษเขียนว่าเป็น กรมการปกครอง ทำไมไม่ใช่กรมตำรวจ รู้สึกเอะใจ แต่ก็รู้สึกกลัว ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ทางผู้อ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้สอบถามว่า เงินในบัญชีมีอยู่เท่าไหร่ให้โอนเข้ามาเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน และพยายามให้ตนบอกหมายเลขบัญชีของตัวเองอีกด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง จี้ซ่อมด่วนก่อนปิดท่าเรือปากเมงทรุด กระเบื้องร่วง-โป๊ะพัง-รังแตนอาละวาด หวั่นนักท่องเที่ยวอันตรายถึงชีวิต
- WDC เสริมกำลังตลาดภาคใต้ ทุ่มงบ 20 ล้านบาท ขยายโชว์รูมแห่งที่ 9 จ.สุราษฎร์ธานี ลุยสินค้ารักษ์โลก พร้อมเปิดตัว Friends of Brand ปี 2568
- ตร.กมลารวบ ผจก.เกสเฮ้าส์สาวติดพนันออนไลน์ ฉกเครื่องเพชร-นาฬิกาหรูนายจ้างสาวลูกครึ่ง ขาย-แพ็คส่งให้แฟนหนุ่มเก็บ
- กองถ่ายหนังอเมริกันชื่นชอบนโยบายไทย นายกฯ แพทองธาร ประกาศแคมเปญแคชรีเบต 30% หลังหารือ 7 บิ๊กผู้ผลิตภาพยนตร์…
อย่างไรก็ตาม นางศิริลักษณ์ ผู้เป็นแม่ของผู้ประสบเหตุดังกล่าว กล่าวว่า เห็นลูกสาวคุยโทรศัพท์อยู่นาน ด้วยท่าทีกะวนกะวายจึงเข้าไปสอบถาม แต่ลูกสาวตนบอกว่า เขาให้คุยในที่มิดชิด ห้ามให้มีผู้อื่นอยู่ด้วย ตนเห็นท่าไม่ดี คิดว่า ลูกสาวน่าจะโดนแก๊งมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์โทรมา หลอกให้โอนเงินให้แน่ ๆ จึงเอาโทรศัพท์กับลูกสาวมาคุยเอง และก็เป็นอย่างที่คิด เพราะมีความผิดปกติหลาย ๆ อย่าง ถ้าตนมาไม่ทันเห็นลูกสาวคุยโทรศัพท์ คงจะถูกหลอกให้โอนเงินไปแล้ว จึงอยากฝากเตือนว่า เหตุการณ์นี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ว่า อย่าหลงเชื่ออะไรง่าย ๆ เพราะตอนนี้แก๊งมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ กำลังระบาดหนักทุกพื้นที่
———————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: