สระแก้ว – ร้องทหาร-ตำรวจ นายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 เงินต้น 5 หมื่นบาท เพิ่มเป็น 240,000 บาท ขู่ยึดบ้านและที่ดิน สปก. สุดท้ายยอมเจรจายกหนี้ให้หลังจ่ายไปแล้ว 88,000 บาท เตรียมส่งอัยการทำบันทึกห้ามกระทำอีก ครั้งต่อไปจะถูกดำเนินคดีทันที
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พ.ต.อ.สุภัค พูนสวัสดิ์ ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ ,เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร นำโดย ร.ท.ทัศนา ดวงรัตน์ ผบ.ร้อย รส.มว.ที่ 1 มณฑลทหารบกที่ 19 ได้นัดผู้เสียหาย คือ นางย้อย ยุบัว อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.8 ต.เขาสามสิบ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร พร้อมกับ น.ส.สมหมาย บำรุงจิตต์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 ม.8 ต.เขาสามสิบ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้ในหมู่บ้านคลองทรัพย์ ที่ สภ.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เพื่อเจรจาประนอมหนี้หลังจาก คสช.มีคำสั่งให้ทหารและตำรวจร่วมกันกวาดล้างเงินกู้นอกระบบ
โดยก่อนหน้านี้ นางย้อย ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระแก้วว่า ขอกู้เงินจาก น.ส.สมหมาย ตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 50,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 โดยไม่มีการทำสัญญา เพียงเขียนไว้ในสมุดเท่านั้น และมีการนำเอกสารที่ดิน สปก.และบ้านจำนวน 2 ไร่เศษไปค้ำประกัน ซึ่ง น.ส.สมหมาย แจ้งว่า ต้องมีการส่งดอกเดือนละ 10,000 บาท และมีการส่งดอกเบี้ยกันระยะหนึ่ง จำนวน 88,000 บาท กระทั่ง นางย้อยมาทราบภายหลังว่า มีการคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่ตกลงกันไว้คือ ร้อยละ 10 แต่มีการคิดถึงร้อยละ 20 จึงเข้าร้องเรียนและเจรจาตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากเจ้าหนี้แจ้งว่า จะต้องนำเงินดอกเบี้ยที่ค้างอยู่ถึงปัจจุบันเดือน พ.ย.61 จำนวน 190,000 บาท พร้อมเงินต้นอีก 50,000 บาท มาจ่ายก่อนจึงจะคืน สปก.ให้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าดำเนินการ
ข่าวน่าสนใจ:
- ชาวนาเผยต้นทุนการทำนาสูงแถมข้าวยังคงราคาตกต่ำอยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือ
- มุกดาหาร-เชิญชวนร่วมกิจกรรมเดินวิ่ง "แคแสดรัน ครั้งที่ 2" ณ สะพานมิตรภาพไทย- ลาวแห่งที่ 2
- เอเย่นต์ยาบ้าร้องไห้โฮ หลังชุด ฉก.ปกครองบุกจับ ตรวจพบของกลางกลับโทษภรรยา ไม่ยอมซุกซ่อนยาเสพติดให้ดี จ.สระแก้ว
- ตรัง สับปะรดทอด-ข้าวเม่าทอด ดาวเด่นประจำร้านสมพร รสชาติอร่อย ราคาเป็นกันเอง
ร.ท.ทัศนา ดวงรัตน์ ผบ.ร้อย รส.มว.ที่ 1 มณฑลทหารบกที่ 19 เปิดเผยว่า หลังรับเรื่องได้นำข้อมูลปรึกษาและแจ้งต่ออัยการจังหวัด ซึ่งเข้าข่ายการปล่อยกู้นอกระบบและคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดจริง จึงเข้าดำเนินการเจรจากับเจ้าหนี้และผู้เสียหาย เบื้องต้นหลังตกลงกันที่ สภ.เขาฉกรรจ์แล้ว เจ้าหนี้ตกลงยอมยกหนี้ให้ โดยคิดยอดเงินต้นบวกดอกเบี้ยเพียงเท่าที่จ่ายไปแล้ว 88,000 บาท เท่านั้น จึงทำบันทึกส่งให้ ร.ต.อ.เสน่ห์ เดชสุภา ร้อยเวร ดำเนินการต่อและนำเรื่องเสนอต่ออัยการพิจารณาด้วย โดยมีการมอบเอกสารสิทธิ์ สปก.คืนให้ผู้ร้องต่อหน้าเจ้าหน้าที่และนายชัยยา ยุบัว ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 มาร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งหากเจ้าหนี้รายนี้ดำเนินการปล่อยกู้ลักษณะนี้อีกจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและยึดทรัพย์ทันที
นางย้อย ยุบัว อายุ 48 ปี ผู้เสียหาย บอกว่า ดีใจมากที่ได้ สปก.คืน เพราะเป็นที่ดินปลูกบ้านอยู่ในปัจจุบัน และตอนแรกก็โง่ไม่คิดว่า เขาจะคิดดอกเบี้ยมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ มารู้ภายหลังว่า ดอกเบี้ยที่จ่ายไปเดือนละ 10,000 คือร้อยละ 20 จึงไปแจ้งเขา แต่เขาไม่ยินยอมหรือลดหนี้ให้ บอกว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นทั้งหมดก่อน และข่มขู่ว่าจะเอาผู้ใหญ่และตำรวจไปจับ จนต้องไปร้องเรียนเพราะจ่ายไม่ไหวจริง ๆ และต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยเหลือตนเองและครอบครัว
ด้าน พ.ต.อ.สุภัค วงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ กล่าวว่า ปกติการกู้ยืมเงิน กฎหมายกำหนดไว้ว่า สามารถคิดดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี ถ้าเป็นเดือนก็ไม่เกินร้อยละ 1.25 บาท หากลูกหนี้ที่ไปกู้ยืมและคิดดอกเบี้ยเกินกว่านั้น ผู้ให้กู้ยืมมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งผู้เสียหายสามารถมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับด้านการกู้ยืม และอาจจะให้เจ้าหนี้มาไกล่เกลี่ยเพื่อให้เงินต้นและดอกเบี้ยอยู่ในอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งหากประชาชนถูกกระทำหรือคิดดอกเบี้ยเกิน สามารถมาขอความช่วยเหลือได้ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายที่จะให้เจ้าหนี้ลูกหนี้มาไกล่เกลี่ยการกู้ยืมเงินได้ หากเป็นการกู้เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าหนี้กับลูกหนี้จะมาไกล่เกลี่ยกันที่สถานีตำรวจได้ ซึ่งพื้นที่ อ.เขาฉกรรจ์มีการจับกุมดำเนินคดีไป 3-4 ราย และมีไกล่เกลี่ยอีกหลายราย
————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: