ชาวตำบลสามัคคีบุก ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ทวงถามความคืบหน้าผลสอบโครงการถนนลูกรังผี อบต.สามัคคี งบกว่า 10 ล้านบาท หลังส่งเรื่องร้องเรียนและมีหลายหน่วยงานทั้ง ปปท.สตง.ปปช.ศูนย์ดำรงธรรมและท้องถิ่นจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบมานานกว่าปีครึ่งแล้วกลับเงียบหาย พ้อสิ้นหวังกับขบวนการตรวจสอบของจังหวัด วอน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีสั่งการปราบทุจริต
เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 นายสุภัทรชัย หันจรัส ประธานสภา อบต.สามัคคี พร้อมด้วยนายบุญเพ็ง เยาวบุตร ตัวแทนภาคประชาชน ต.สามัคคี อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ เข้าติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบสำนวนการประพฤติทุจริตของฝ่ายบริหาร อบต.สามัคคี อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์กับสำนักงาน ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ หลังจากสมาชิก อบต.สามัคคีและชาวบ้านใน ต.สามัคคี ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ปปท.สตง.ปปช.ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ และ ท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2559 เพื่อให้ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินโครงการซ่อมแซมถนนลูกรังรวมงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากบางหมู่บ้านไม่มีถนน แต่กลับมีการเบิกจ่ายเงิน จนกลายเป็นถนนผี กระทั่งเวลาผ่านมากว่า 1 ปี 4 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จนทำให้สมาชิกและชาวบ้านถูกผู้บริหาร อบต.ฟ้องเรียกค่าเสียหาย
นายสุภัทรชัย หันจรัส ประธานสภา อบต.สามัคคี กล่าวว่า ปัจจุบันตนและตัวแทนสมาชิก อบต.สามัคคีจำนวน 8 คน รวมทั้งตัวแทนภาคประชาชนใน ต.สามัคคี กำลังทุกข์ใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี ฝ่ายปกครองในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ท้องถิ่น จ.กาฬสินธุ์ ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ ป.ป.ท.เขต 4 สตง.กาฬสินธุ์ และ ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ เพื่อร่วมตรวจสอบ หลังชาวบ้านพบความผิดปกติการเบิกจ่ายงบประมาณของผู้บริหาร อบต.สามัคคี ที่ดำเนินการส่อไปทางทุจริตหลายโครงการ เริ่มตั้งแต่ปี 2552 ถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะโครงการซ่อมแซมถนนลูกรัง รวมเป็นเงินงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากมีการทำโครงการซ่อมแซมถนนและเบิกจ่ายเงิน แต่กลับไม่มีถนนปรากฏอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งการออกมาร้องเรียนครั้งนี้สมาชิกอบต.และชาวบ้าน ต้องการความถูกต้อง และเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชุมชนที่เป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน แต่กลับไม่มีความคืบหน้า และยังถูกฝ่ายผู้บริหารฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทเรียกร้องค่าเสียหายมูลค่ารวม 5 แสนบาท แต่ศาลได้เมตตาพิจารณาลดเหลือ 5 หมื่นบาท
“ที่ผ่านมาชาวบ้านเห็นความไม่จริงใจในการตรวจสอบและพิจารณาข้อร้องเรียน โดยเฉพาะในประเด็นของถนนลูกรังผี เนื่องจากมีการเบิกจ่ายงบประมาณแบบกินเปล่า และช่วงแรกคณะกรรมการของจังหวัดตรวจสอบแล้วก็พบมีมูลที่ค่อนข้างจะชัดเจนตามข้อร้องเรียน แต่กลับปล่อยให้เรื่องเงียบและไม่มีความคืบหน้า มีการโยนเรื่องไปมาระหว่างส่วนราชการในพื้นที่และส่วนกลาง ทั้งๆที่ชาวบ้านร่วมกันตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณ เพื่อความถูกต้อง และรักษาผลประโยชน์ให้กับงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งไม่ต่างกับชาวบ้านบางระจัน ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อรักษาประเทศชาติบ้านเมือง แต่ถูกฝ่ายบริหารฟ้องกลับและยังไม่มีการดำเนินการใดๆอย่างนี้ ชาวบ้านจึงเริ่มสิ้นหวังและเศร้าใจเป็นอย่างมากกับกระบวนการตรวจสอบของจังหวัด จึงอยากวิงวอนไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศวาระแห่งชาติเรื่องการปราบโกง ได้พิจารณาเรื่องนี้เป็นกรณีด่วนด้วย”นายสุภัทรชัย กล่าว
ด้านนายบุญเพ็ง เยาวบุตร ตัวแทนภาคประชาชน ต.สามัคคี อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า มูลเหตุของเรื่องนี้ เกิดจากตนและชาวบ้านเห็นความผิดปกติของการพัฒนาตำบลที่เป็นบ้านเกิดส่อไปในทางทุจริตและไม่โปร่งใสของผู้บริหารตำบลสามัคคีหลายโครงการ เช่น การปรับปรุงซ่อมแซมถนนลูกรังหลายสาย ซึ่งทราบในตอนหลังว่ามีการเบิกจ่ายงบประมาณซ้ำซ้อน และบางโครงการไม่มีถนนแต่มีการเบิกจ่าย จึงได้ร้องเรียนผู้นำชุมชนและฝ่ายสภา เพื่อให้มีการตรวจสอบตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 เป็นต้นมา
นายบุญเพ็ง กล่าวอีกว่า ช่วงแรกๆที่ร้องเรียน ก็มีเจ้าหน้าที่ ปปท.เขต 4 และ สตง.กาฬสินธุ์ และคณะกรรมการตรวจสอบระดับจังหวัด ซึ่งแต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัด และมีสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดเป็นต้นเรื่องลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ทราบเพียงว่าทางจังหวัดและฝ่ายที่ตรวจสอบพบมูลเข้าข่ายความผิดหลายประเด็น โดยได้มอบหมายให้ทางอำเภอร่องคำดำเนินการ แต่เรื่องก็เงียบหายไปจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้ชาวบ้านรู้สึกท้อใจและหมดหวังในการพึ่งพาความยุติธรรม ทั้งๆที่เสียสละออกมาสู้เพื่อความถูกต้อง สู้เพื่อบ้านเกิด อีกทั้งยังเป็นการทำให้การใช้จ่ายเงิน ซึ่งเป็นภาษีที่มาจากประชาชนเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด แต่กลับไม่ได้รับความใส่ใจ จึงต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวเร่งดำเนินการด้วย เนื่องจากเป็นที่พึ่งเดียวของประชาชน เพราะนายกรัฐมนตรีเคยประกาศที่จะเดินหน้าปราบปรามขบวนการทุจริต
อย่างไรก็ตามขณะที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.กาฬสินธุ์อ้างว่าอยู่ในระหว่างส่งเรื่องไปที่ ป.ป.ช.ส่วนกลางพิจารณาในทุกประเด็นที่ร้องเรียน โดยได้ห้ามผู้สื่อข่าวบันทึกภาพและไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ
