ผู้ตรวจการแผ่นดิน ประชุมรับฟังคำชี้แจงข้อเท็จจริงกับอบจ.ตรัง และประชาชน ประเด็นเรื่องร้องเรียนโครงการแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงานไฟฟ้า อบจ.ตรัง หลังปชช.ล้มเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการแปรรูปขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า เมื่อวันที่ 28 กันยายน 64
วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ณ ห้องประชุมสภา อบจ.ตรัง นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง พร้อมผู้บริหาร รองปลัด รักษาราชการแทนปลัด อบจ.ตรัง ให้การต้อนรับนางสาวเผ่าพงศ์ เอกสายธาร ผอ.ส่วนสอบสวน 1 สำนักสอบสวน 1 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมหารือกับผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ ประชาชนในตำบลบางเป้า ตำบลบางหมาก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ในประเด็นเรื่องร้องเรียนและตรวจสอบข้อเท็จจริง โครงการแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงานไฟฟ้า อบจ.ตรัง เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง อบจ.ตรัง ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินกำหนด ดังนี้
1.การดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงานไฟฟ้า มีข้อเท็จจริงและรายละเอียดเป็นประการใด ได้มีการจัดทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่ อย่างไร
2.ในการจัดทำรับฟังความคิดเห็นการดำเนินโครงการก่อสร้าง ได้มีการแจ้งประชาชนในพื้นที่โครงการก่อสร้าง ให้เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นด้วยวิธีใด ครอบคลุมประชาชนในพื้นที่ใดบ้าง และมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังความคิดเห็นจำนวนเท่าใด มีผู้เสนอความคิดเห็นหรือคัดค้านโครงการก่อสร้างอย่างไร การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายหรือระบบที่เกี่ยวข้องอย่างไร
3.ในการรับฟังความคิดเห็น ได้มีการเปิดเผยข้อมูล หรือชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบถึงผลเสีย ที่จะเกิดขึ้นว่าจะกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่หรือไม่ อย่างไร
นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง ได้กล่าวต้อนรับคณะผู้ตรวจการแผ่นดิน และส่วนที่ เกี่ยวข้องพร้อมได้ให้เหตุผลความจำเป็นและความตั้งใจในการดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาขยะล้นเมืองของจังหวัดตรัง ซึ่งปัญหาขยะ ถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันดำเนินการให้ถูกต้องหลักวิชาการ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการแปรรูปเป็นพลังงานทดแทน โดยมอบหมายให้เอกชนดำเนินการหรือร่วมดำเนินการ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการจัดการขยะมูลฝอย พ.ศ. 2560 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและได้ชี้แจงข้อเท็จจริงตามประเด็น 3 ข้อ พร้อมแสดงเอกสาร หลักฐาน
ประกอบการชี้แจง ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่นายสุเชต นุชสมัย สมาชิกสภา อบจ.ตรัง เขต 2 อำเภอกันตัง เป็นผู้แทนของประชาชนในพื้นที่ กล่าวว่า เชื่อว่าคนในพื้นที่ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการนี้ การจัดทำโครงการหนึ่งโครงการใดการไม่เห็นด้วย หรือมีการร้องเรียน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ขอให้อบจ.ตรัง ดำเนินการให้ถูกต้องและเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ถ้าโรงงานแปรรูปขยะฯ เกิดขึ้นได้ และหากดำเนินการไปแล้วมีปัญหาเกิดผลกระทบกับชาวบ้าน ก็เชื่อว่าทุกคนพร้อมเดินหน้าเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดประโยชน์กับชาวบ้าน
ข่าวน่าสนใจ:
- คึกคัก นาย"บุ่นเล้ง" อดีตนายกอบจ.ตรัง นำทีมนายกบุ่นเล้ง สมัครครบ 30 เขต ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง
- รับสมัคร นายกอบจ.-ส.อบจ.ตรัง วันแรกคึกคัก! บ้านใหญ่ตระกูลโล่ฯ-ส.ส.ตรังทุกพรรค-กองเชียร์นับพัน แห่ให้กำลังใจ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” สู้ศึกอีกสมัย…
- ตรัง "เมนูลูกปลาปิ้งเครื่อง" จับปลาสดๆจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย
ด้านนางสาวเผ่าพงศ์ เอกสายธาร ผอ.ส่วนสอบสวน 1 สำนักสอบสวน 1 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า จากการรับฟังคำชี้แจงข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ ดีใจที่หน่วยงานคิดดำเนินการเรื่องแก้ไขปัญหาขยะในจังหวัดขึ้น เพราะปัญหาขยะเป็นเรื่องใหญ่ และจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งหากดำเนินการได้ถือว่าจะได้ช่วยลูกหลานคนตรังในอนาคต ในส่วนของคำร้องของประชาชนที่มีมายังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินน่าจะเกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งหลังจากนี้ทราบว่า อบจ.ตรัง จะทำ ประชาพิจารณ์เพิ่มเติมขอให้ทำความเข้าใจ ชี้แจงกับชาวบ้านให้ชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวจะมีผลดี ผลเสียอย่างไรกับคนในพื้นที่ และขอเป็นกำลังใจให้กับการดำเนินงานเรื่องนี้
นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ถ้าโครงการเดินไปได้ วิกฤติปัญหาไม่มีที่ ทิ้งขยะในอีก 5 ปี ของจังหวัดตรังจะรับมือได้ทัน ขอให้อบจ.ตรัง ทำความเข้าใจกับประชาชน อย่าให้เกิดความขัดแย้ง เพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไป
สำหรับโครงการแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นหลังงานไฟฟ้าของ อบจ.ตรัง ขณะนี้คณะกรรมการจัดการ สิ่งปฏิกูลและมูลฝอยจังหวัดตรังได้พิจารณาให้ความเห็นชอบ และจัดส่งแบบสรุปรายละเอียดโครงการและรายงานการศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้โครงการให้คณะกรรมการกลั่นกรองโครงการกำจัดขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มอบหมายให้เอกชนดำเนินการหรือร่วมดำเนินการกำจัดมูลฝอย (กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) ให้ความเห็นชอบ หลังจากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการกลางจัดการ สิ่งปฏิกูลและมูลฝอยพิจารณาให้ความเห็น เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นการรายงานต่อผู้ตรวจการแผ่นในวันนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ที่วัดแว่นฟ้าธรรมาวาส (วัดป่าเตียว ) ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ได้จัดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโครงการแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยเชิญประชาชน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนมาร่วมรับฟัง (ชาวบ้านล้มเวที อบจ.ค้านสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล)
ขณะเริ่มการเปิดเวทีประชุมไปได้ประมาณ 30 นาที ปรากฏว่าได้มีชาวบ้านประมาณ 60 คน จากหมู่ 5 ต.บางเป้า อ.กันตัง ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งโรงงาน พร้อมป้ายข้อความ “ ชาวบ้านหมู่ 5 ต.บางเป้า ไม่เอาโรงไฟฟ้าชีวมวล” คัดการการก่อสร้างเดินทางมาสมบท จากนั้นมีการเดินไปถือป้ายประท้วงอยู่บริเวณหน้าศาลาวัด ซึ่งเป็นพื้นที่จัดเวทีประชุม พร้อมกับตัวแทนใช้โทรโข่งพูดคัดค้านการก่อสร้าง ทางด้านผู้นำท้องถิ่นบางคน ระบุชาวบ้านมาคัดค้านผิดที่ เพราะที่อบจ.จะผลักดันให้เกิดเป็นโครงการแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นไฟฟ้า ไม่ใช่โรงไฟฟ้าชีวมวล ด้านชาวบ้านระบุโครงการแปรรูปขยะฯ ก็คือ โรงไฟฟ้าพลังชีวมวล ซึ่งเกิดจากการขยะ เช่นเดียวกับไม้ยางพารา และทลายปาล์มน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันจะไม่ให้เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด ซึ่งชาวบ้านได้เผชิญหน้ากับเวทีประมาณ 30 นาที พูดโจมตีไม่เอาโรงไฟฟ้าขยะ ทำให้เกิดความหนาแน่นในบริเวณการจัดเวที โดยนายสมพร อ่อนชาติ ปลัดอำเภอกันตัง หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงได้รับมอบหมายจากนายอำเภอกันตัง ใช้อำนาจชุดปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอกันตัง พูดผ่านเครื่องขยายเสียงของเวที สั่งการให้ยุติการจัดเวที เพราะมีประชาชนเข้ามารวมตัวกันภายในพื้นที่จัดงานประมาณ 150 คน ซึ่งเกินอำนาจของอำเภอจะอนุญาต เพราะเกรงจะเกิดการระบาดของเชื้อโควิด19 ต้องขออนุญาตต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง โดยสั่งให้ยุติเวที และให้ทุกคนแยกย้ายกลับบ้าน สร้างความพอใจให้แก่ชาวบ้านที่ออกมาคัดค้าน พร้อมประกาศไม่ใช้แค่ยุติเวทีรับฟังความคิดเห็นเท่านั้น แต่ขอให้ยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากำจัดขยะในพื้นที่อย่างเด็ดขาด เพราะเป็นจุดที่ไม่เหมาะสม หวั่นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม จะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน และการจัดเวทีเป็นไปอย่างเร่งรัด ไม่ชอบมาพากล และไม่เหมาะสมในสถานการณ์โควิด ยืนยันไม่ยอมให้มีการก่อสร้างอย่างเด็ดขาด หวั่นผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ หากมีการจัดเวทีอีกต่อไป ก็พร้อมจะรวมตัว ออกมาคัดค้านการก่อสร้างให้ถึงที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: