X

ตำรวจพระประแดงโชว์ผลงานปลายปี ปิดจ๊อบคนร้ายชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ ข้างโรงพัก

ตำรวจพระประแดงโชว์ผลงานปลายปี ปิดจ๊อบรวบคนร้ายใช้คัดเตอร์ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ แม่ค้าขายอาหารทะเลทางออนไลน์ ในย่านราษฎร์บูรณะ ข้างโรงพัก เผยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง พึ่งพ้นโทษออกมาข้อหาปล้นและชิงทรัพย์

เมื่อเวลา  11.30 น.วันที่ 29 ธันวาคม 2564 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ ผกก. สภ.พระประแดง พ.ต.ท.ธนกฤต รวยอารี รอง ผกก.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนาย วีรพันธ์ สุริวงศ์ อายุ 35 ปี ที่อยู่  90 ซอยประชาอุทิศ 91/3 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 681/2564 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ข้อหา ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญ เพื่อพาทรัพย์นั้นไป

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งมีเหตุมีสองคนร้ายเป็นชายใช้อาวุธชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำชมพู ทะเบียน 7 กข 1827 กรุงเทพมหานคร ของ น.ส. พรพรรณ มาลาคำ อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอาชีพเป็นแม่ค้าขายอาหารทะเลทางออนไลน์ ในย่านราษฎร์บูรณะ ขณะที่จอดอยู่ที่บริเวณทางขึ้นลงลานคนเมือง ถนนศรีนครเขื่อนขันธ์ ต.ตลาด อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ห่างจากโรงพัก สภ.พระประแดง เพียง 200 เมตร หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมเดินทางเข้าตรวจสอบ

โดย น.ส.พรพรรณ  ผู้เสียหายได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอกที่บริเวณท่าน้ำดังกล่าวและนั่งคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์ กำลังคุยโทรศัพท์กับลูกค้าอยู่ ได้มีชายใส่เสื้อคลุมลายพรางทหาร กางเกงยีนส์ขายาว ได้เดินเข้าหาตนพร้อมด้วยอาวุธมีดและบอกให้ตนลงจากรถ ด้วยความตกใจเกรงว่าจะถูกทำราย ตนจึงได้รีบลงจากรถและวิ่งหนีออกห่าง และได้เห็นชายอีกคนหนึ่ง เดินตามมาก่อนที่จะขึ้นซ้อนท้ายและขี่รถจักรยานยนต์ของตนหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงประสานขอภาพกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุพบว่าบันทึกภาพพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุทั้งสองเอาไว้ได้ จึงกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกสืบสวนหาข่าว และตรวจสอบประวัติอาชญากรจนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายวีระพันธ์ สุริวงศ์ ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งภายในซอยประชาอุทิศ 10 แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร จึงได้ร่วมรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ นำกำลังเข้าทำการจับกุมตัวนายวีระพันธ์ ได้หน้าห้องเช่าดังกล่าว ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนขยายผลที่โรงพัก

นายวีระพันธ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุตนได้ชักชวนนายแตน ซึ่งเป็นชาวกัมพูชานั่งรถประจำทางมาลงที่ท่าน้ำพระประแดง เพื่อที่จะมาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์โดยที่วางแผนไว้ว่านายแตน เป็นคนลงมือ ส่วนตนเป็นคนดูต้นทาง หลังจากที่เดินทางมาถึงนายแตน ได้ซื้อเบียร์มานั่งดื่ม ระหว่างที่นั่งรอหาเหยื่อ แต่รอยู่นานจนรถประจำทางใกล้หมด ก็ได้เห็นผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดจุดที่เกิดเหตุและนั่งคร่อมคุยโทรศัพท์อยู่บนรถจักรยานยนต์ที่ยังคากุญแจอยู่  ตนจึงบอกให้นายแตนไปก่อเหตุ แต่นายแตน ไม่กล้าเพราะขี่รถจักรยานยนต์ไม่แข็งตนจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุเอง โดยเดินทางเข้าไปหาผู้เสียหายและชักมีดคัดเตอร์ที่พกติดตัวออกมาข่มขู่ผู้เสียหายให้ลงจากรถ ก่อนที่ตนจะขี่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปและเอาไปขายให้กับนายอภิชัย ปลื้มจิตร อายุ 35 ปี ในราคา 2,200 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้พาตัวนายวีระพันธ์ ไปที่บ้านนายอภิชัย ที่บ้านไม่มีเลขที่ ซอยบางเชือกหนัง 13 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร พบซากและชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์จำนวนมากที่ถูกถอดแยกชิ้นส่วนรอการจำหน่ายอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับนาย อภิชัย ว่า รับซื้อของโจร ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และทำการตรวจยึดชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ ทั้งหมด 14 รายการ พร้อมรถจักรยานยนต์ 1 คันยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดงดำ ทะเบียนป้ายเหลือง 1กจ 5308 กรุงเทพมหานครอีก 1 คัน

ก่อนคุมตัวนายวีระพันธ์ ผู้ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดที่ลงมือก่อเหตุ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อ  ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญ เพื่อพาทรัพย์นั้นไป ส่วนผู้ก่อเหตุอีกหนึ่งรายที่ชื่อนาย แตน อายุประมาณ 25 ปี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว

พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ  ได้กล่าวว่า เคสนี้เราได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลพระประแดง ที่เห็นตัวคนร้ายแต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ทางทีมสืบสวนพระประแดงมีข้อมูลเก่าว่าคนร้ายอาจจะเป็นใครได้บ้าง โดยเฉพาะคนที่พ้นโทษและมาก่อคดีเดิมซ้ำ โดยคดีนี้คนก่อเหตุก็เคยติดคุกมาแล้ว 2 ครั้ง รอบแรกติดคุก 7 ปี ข้อหาปล้นทรัพย์ พอออกมาก็ก่อคดีชิงทรัพย์อีกพื้นที่ สภ.ราษฎร์บูรณะ พอออกมาอีกก็ก่อคดีดังกล่าวอีก

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน