เชียงราย-ยกพวกกว่า 10 ถล่มไล่ฟันถึงในบ้าน ถืออาวุธมีดไม้และปืนเข้ามาถล่มทำลายทรัพย์สิน ประตูกระจกแตกถึงห้องนอนภายบ้าน
จากเหตุการณ์ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 ม.ค.2565 เพื่อนบ้านยกพวกกว่า 10 คน ถืออาวุธมีดไม้และปืนเข้ามาถล่มทำลายทรัพย์สิน ประตูกระจกแตกถึงห้องนอนภายบ้านเลขที่ 241 บ.สันโป่ง หมู่ 5 ต.ทานตะวัน อ.พาน จ.เชียงราย ทำให้ลูกชายเจ้าของบ้านและเพื่อนรวม 2 คน ต้องหนีตายออกประตูหลังรอดหวุดหวิด หลังเหตุการณ์ได้มีการหวนกลับมาตะโกนพูดจาข่มขู่ท้าทายต่าง ๆ นานา ทำให้แม่กับลูกชายวัย 7 ปี อยู่กันอย่างหวาดระแวงผวาเกรงจะไม่ปลอดภัย ส่วนคดีที่แจ้งความกับ สภ.พาน ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 241 บ.สันโป่ง หมู่ 5 ต.ทานตะวัน อ.พาน จ.เชียงราย พบกับนางยุพิน ใจมาลา อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 1 ม.ค.64 ขณะที่นาย ธีรจิต ใจมาลา อายุ 25 ปี ลูกชายที่ทำงานอยู่ จ.เชียงราย ได้กลับมานั่งรับประทานอาหารฉลองปีใหม่ที่บ้านพร้อมกับเพื่อนรวม 2 คน ที่ใต้ถุนบ้าน ก็ได้มีวัยรุ่น 1 คน เพื่อนบ้านใกล้เคียงขับขี่รถจักรยายน เร่งเครื่องผ่านมา 3 รอบ และจอดที่หน้าบ้านเบิ้ลเครื่องเสียงดัง ทำให้ลูกชายเดินเปิดประตูรั้วออกมาต่อว่า เบิ้ลรถเสียงดังทำไม ทำให้เกิดมาปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นวัยรุ่นคนดังกล่าวได้กลับบ้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 150 เมตร พาพ่อและญาติพี่น้อง 4 คน มาหาเรื่องที่หน้าบ้านอีก โดยมีนางยุพิน และลุงเพื่อนบ้าน มาช่วยห้ามปราม ผ่านไปสักครู่ ก็พากันกลับไป ต่อมากลุ่มคนดังกล่าวได้พากันยกพวกกว่า 10 คน ขับรถปิกอัพมาจอดหน้าบ้าน ถืออาวุธปืน มีดยาว และมีดสั้น บุกพังประตูรั้วเหล็กล้มเข้าไปใช้มีดไล่ฟันทำลายทรัพย์สิน ถ้วยชาม ที่นั่งประทานอาหารอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน ทำให้นายธีรจิต และเพื่อนอีกคน รีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องนอนข้างบ้าน 2 ชั้น แต่ไม่สามารถหยุดความบ้าคลั่งของกลุ่มคนดังกล่าว ได้ใช้มีดไม้ทำลายประตูกระจกบานเลื่อนใหญ่จนกระจกแตก และหน้าต่างเสียหาย ทั้งที่นางยุพินได้พูดขอร้องห้ามปรามและจับมีดด้ามยาวของชาย 2 ไว้ แต่ต้านกำลังไม่ไหว ต้องปล่อยให้กลุ่มคนบุกเข้าไปไล่ฟัน 2 ชายหนุ่ม ทำให้นายธีรจิต ลูกชายเจ้าของบ้านพาเพื่อนอีกคนรีบหนีออกประตูหลังบ้านรอดตายหวุดหวิด
นางยุพิน ใจมาลา กล่าวว่าถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พานให้ช่วยสอบสวนดำเนินคดีดังกล่าวอย่างเร่งด่วนด้วย เพราะตนเองอยู่กับลูกชายอายุ 7 ปี เพียงลำพัง มีน้องชายที่พิการ อยู่บ้านใกล้กันเท่านั้น จึงมีความวิกตกกังวลผวาดผวาทุกคืนเกรงจะไม่ปลอดภัย
ด้าน พ.ต.ท.ปวิน วรรณราช สว.(สอบสวน) สภ.พาน ได้กล่าวว่าคดีดังกล่าว กำลังอยู่ในขั้นตอนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อนำคู่กรณีมาสอบสวน หาข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะได้ผลสรุปในอีกไม่นาน…
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: