ฉะเชิงเทรา – ทางเลือกที่หลากหลาย ในวันลงคะแนนเสียง 9 ม.ค.65 นี้ นัดชี้ชะตาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ ที่สนามเลือกตั้งนายก อบต.เกาะขนุน ท่ามกลางบรรยากาศควันหลงจากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมายาวนานนับ 10 ปี ของคนการเมือง 2 ขั้วเก่า ที่มีรอยร้าวลึกจนยากจะประสานในอดีต สู่ผู้สมัครหน้าใหม่ที่เริ่มขันอาสาออกมาแสดงตัวตนในสนาม ทั้งแบบโนเนมไร้คนหนุนหลัง และแบบมากประสบการณ์จากกลุ่มคนการเมืองผู้เก๋าเกมที่อิงแอบอยู่แผงหลัง ช่วยหนุนดันส่งมาให้ประชาชนได้พิจารณาเป็นทางเลือกกันถึง 3 ราย
โดยผู้สมัครหมายเลขที่ 1 นายศุภชัย แสงจันทร์ หนุ่มใหญ่วัย 52 ปี แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธมาโดยตลอดต่อการที่จะเปิดเผยตัวตนต่อสื่อมวลชน แต่ผู้เป็นพี่ชาย คือ นายอดุลย์ แสงจันทร์ อดีต นายก อบต.เกาะขนุน 2 สมัยเมื่อกว่า 10 ปีก่อนหน้า ผู้ที่ถูกทาง กกต.พิจารณาจับแขวนไว้ให้เป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 28 พ.ย.64 ที่ผ่านมา ได้หมายมั่นปั้นมือผลักดันส่งเสริมขึ้นมาเป็นตัวแทนในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้
ข่าวน่าสนใจ:
ได้เปิดเผยดีกรีไว้ก่อนหน้าการเปิดรับสมัครแล้วว่า นายศุภชัย แสงจันทร์ ผู้เป็นน้องชายนั้น เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.เกาะขนุน มาอย่างยาวนานถึงกว่า 15 ปีเต็ม และพร้อมที่จะเข้ามาดำเนินงานสานต่อตามนโยบายของ กลุ่ม “เรารักเกาะขนุน” ที่เคยวาดความหวังไว้เมื่อครั้งการเลือกตั้งในช่วงปลายปีที่ผ่านมาให้เป็นจริง และสืบสานแนวทางตามเจตนารมณ์ในการทำงานของตนเอง เสมือนเมื่อครั้งที่เคยได้ดำรงตำแหน่งนายก อบต.เกาะขนุน เมื่ออดีตกว่า 10 ปีก่อน
ส่วนผู้สมัครหมายเลข 2 นายกัมปนาท ชูสุวรรณ อายุ 56 ปี ชาว ม.5 ต.เกาะขนุน นั้น เป็นเด็กปั้นหน้าใหม่จากนักการเมืองท้องถิ่นระดับจังหวัด (อบจ.) ที่มีดีกรีและมากประสบการณ์ จากที่เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารในโรงงานอุตสาหกรรม ก่อนที่จะเบนเข็มหันมาสร้างธุรกิจทางด้านการผลิตชิ้นส่วนแม่พิมพ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และงานด้านวิศกรรมเป็นกิจการของตนเอง รวมทั้งยังเป็นเจ้าของค่ายมวยชื่อดัง “ก.กัมปนาท“ ไว้การันตีในความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา และแสดงความสามารถอย่างรอบด้านให้ได้เห็น
แม้จะเคยเป็นอดีตรอง นายก อบต.เกาะขนุนมาแล้ว 1 สมัย เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนนั้น แต่การลงสมัครแข่งขันในสนามนี้ ยังต้องใช้พลังหนุนจากคนการเมืองในระดับจังหวัดมาเป็นแรงผลักดันอีกด้านหนึ่งด้วย พร้อมชูนโยบายหลักในการสร้างศูนย์ฝึกอาชีพให้แก่เยาวชนในพื้นที่ได้มีงานทำ สามารถพึ่งตนเองได้ด้วยวิชาชีพงานด้านช่าง เพื่อพัฒนาต่อยอดรองรับภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ต่อไปได้ในอนาคต
ขณะผู้สมัครหมายเลข 3 คือ นายอำนาจ ธัญญประดิษฐ์ วัย 56 ปี ชาวหมู่ 7 ต.เกาะขนุน แม้จะถูกมองอยู่นอกสายตาด้วยท่าทีเย้ยเยาะจากผู้คนบางกลุ่ม แต่ “อำนาจ” ได้บอกกับเราว่า ตนเองนั้นมีความพร้อมที่จะสู้ด้วยหัวใจแบบไม่มีใครหนุนหลัง แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านการเมืองมาก่อน แต่ความสำเร็จจากหน้าที่การงานในการประกอบธุรกิจส่วนตัว เกี่ยวกับระบบภาคการขนส่ง “โลจิสติกส์” ให้แก่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จนกิจการเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าแบบไร้ปัญหาและภาระหนี้สินที่ผ่านมานั้น
ได้สร้างความมั่นใจ และเป็นสิ่งยืนยันถึงความสามารถ และความสำเร็จที่บริบูรณ์จากหน้าที่การทำงานส่วนตัวอย่างเห็นได้ชัด จึงได้ตัดสินใจขออาสามาลงสมัครในสนามการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างเป็นรูปธรรม เข้าถึงปัญหาประชาชนก่อนนำมาเป็นแนวทางพัฒนาพื้นที่ให้มีความเจริญก้าวหน้า นำไปสู่ความสำเร็จเช่นเดียวกับธุรกิจของตนเอง ที่เคยบริหารจัดการในครอบครัว จนถือได้ว่ามีความพร้อมบริบูรณ์จนถึงที่สุดมาแล้ว
แม้ในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีผู้คนมากมายได้แสดงท่าทีดูแคลนเอาไว้อย่างหลากหลาย แต่ตนเองก็พร้อมที่จะเดินหน้าสู้สู่ถนนการเมืองท้องถิ่นในสนามนี้ต่อไป โดยในวันลงสมัครรับเลือกตั้งนั้นตนเองได้หอบเอกสารเดินถือเข้าไปยื่นเองแต่เพียงลำพัง ในช่วงเวลาสุดท้ายของวันปิดการรับสมัคร แต่การตัดสินใจของประชาชนชาวเกาะขนุนในวันลงคะแนนเสียงที่กำลังจะมาถึงนั้น จะช่วยชี้ขาดถึงความต้องการว่าอยากจะเปลี่ยนแปลงคนการเมืองในพื้นที่หรือไม่
สิ่งที่จะฝากไปถึงยังประชาชนใน ต.เกาะขนุน นั้น จึงอยากขอให้รอดูกันที่ผลงาน หากตนมีโอกาสได้รับการเลือกตั้งเข้าไปเป็นนายก อบต.แล้ว ประชาชนคนเกาะขนุนจะต้องอยู่ดีมีสุข บรรลุสู่ความเจริญก้าวหน้าทั้งทางด้านอาชีพการงาน และความเป็นอยู่ ความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น จะเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดต่อไปนั้น อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนในวันพรุ่งนี้แล้ว นายอำนาจ ระบุ
นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ชาวเกาะขนุนต้องเลือก ว่าจะยังคงวนเวียนอยู่กับการเมืองแบบจับขั้วอิงการเมืองใหญ่ ที่มีความรุนแรงแข่งขันสูงแบบเก่า จนรอยร้าวยากเกินประสานให้เกิดความสามัคคีในตำบล หรือจะเลือกการเมืองใหม่แบบไร้ขั้วไร้ขา เพื่อช่วยพัฒนาคนในตำบลนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม สลัดทิ้งความบอบช้ำจากการเลือกตั้งเมื่อครั้งปลายปีที่ผ่านมา จากที่ผู้สมัครถูกแขวนสิทธิ์ ทำประชาชนไร้ทางเลือก นำไปสู่การโหวตโนที่เหนือกว่าคะแนนของผู้ชนะ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: