กรุงเทพฯ – กทม.สั่งทุกเขต ยกระดับเตรียมพร้อม ตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินสำนักงานเขต (EOC) เพื่อติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ตั้งเป้าลดการรอคอยของผู้ป่วย ไม่เกิน 12 ชั่วโมง
นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีนโยบายกำชับให้ทุกหน่วยงาน ยกระดับการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น โดยยกระดับความเข้มข้นของมาตรการ สำหรับสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเร่งรัดดำเนินการป้องกันควบคุมโรค และการดูแลรักษาตามระดับความรุนแรงของอาการ ทบทวนและซักซ้อมการรับผู้ป่วยเข้ามาในระบบการรักษา รวมถึงกระบวนการส่งต่อผู้ป่วยให้ราบรื่น
โดยมีเป้าหมายลดการรอคอยของผู้ป่วยไม่ให้เกิน 6 ชั่วโมง หรืออย่างช้าภายใน 12 ชั่วโมง จะต้องได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ เพื่อประเมินอาการเบื้องต้น เมื่อผู้ติดเชื้อได้รับการจับคู่ดูแลกับสถานพยาบาลแล้ว หากผู้ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรง ให้รักษาตัวสถานที่แยกกักที่บ้าน (Home Isolation : HI) จะมีเครื่องวัดไข้และเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ยาฟ้าทะลายโจร และยาพื้นฐานอื่น ๆ ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อมีอาการเปลี่ยนแปลง ให้แจ้งสถานพยาบาลที่ดูแล เพื่อขอรับยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ หรือส่งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) หรือส่งไปยังโรงพยาบาลสนาม หรือส่งต่อรักษาในโรงพยาบาล ตามระดับความรุนแรงของอาการ
ปลัด กทม. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้ทั้ง 50 เขต เตรียมความพร้อมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินสำนักงานเขต (Emergency Operation Center : EOC) เพื่อติดตามสถานการณ์โรค โดยบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุ ซักซ้อมขั้นตอนการดำเนินการกรณีเกิดเหตุในสถานการณ์ต่าง ๆ และสำรวจความพร้อมของสถานที่ อุปกรณ์ บุคลากร การกำกับให้เป็นไปตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค การเตรียมระบบการคัดกรองและแยกผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว การรายงานระบบข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง และทันทีที่พบผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ รวมถึงตรวจสอบเลขหมายทดสอบระบบโทรศัพท์และคู่สายต่างๆ เพื่อให้พร้อมใช้งานตอบสนองการให้บริการประชาชนได้ทันเวลา
ข่าวน่าสนใจ:
กรุงเทพมหานคร ยังออกประกาศ เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 49 มีผลตั้งแต่วันนี้้ (9 ม.ค.65) กำหนดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ แต่ต้องผ่านมาตรฐาน SHA PLUS และไม่เกินเวลา 21.00 น. ส่วนสถานประกอบการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่จะขอปรับเป็นร้านอาหาร ต้องยื่นขออนุญาตเขต ภายในวันที่ 15 ม.ค.65
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: