นนทบุรี – นายอนุทิน ชาญวีรกูล ชี้ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น แต่ผู้มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตไม่เพิ่มตาม พร้อมเตรียมสถานพยาบาล ยา เวชภัณฑ์ ไว้แล้ว และยังไม่พบปัญหาขาดแคลนเตียง เพราะผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการให้ใช้ระบบ HI/CI เป็นหลัก ขอให้คนไทยเดินทางกลับประเทศโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย
วันที่ 10 มกราคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วง 10 วันหลังเทศกาลปีใหม่อย่างเต็มที่ พบว่าแม้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แต่ผู้ที่มีอาการรุนแรงและเสียชีวิตไม่ได้เพิ่มขึ้นตามอัตราส่วน ทั้งนี้ ได้เตรียมความพร้อมทั้งสถานพยาบาล ยา และเวชภัณฑ์ ไว้รองรับ
สำหรับเตียงผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาขาดแคลน และมีการติดตามต่อเนื่อง รวมถึงเน้นให้รักษาผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ ที่บ้าน Home Isolation และศูนย์พักคอย Community Isolation ส่วนโรงพยาบาลสนามที่มีหลายแห่งเตรียมความพร้อมให้เป็น Community Isolation ซึ่งจะมีการปรับให้ประชาชนได้รับการดูแลที่เหมาะสม โดยยึดดุลพินิจของแพทย์และแนวทางของกรมการแพทย์ รัฐบาลมีเจตนารมณ์ที่จะดูแลผู้ติดเชื้อ โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตั้งแต่ติดเชื้อจนหาย
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีมีข่าว ชุดตรวจ ATK ขาดตลาดว่า ได้มอบนโยบายให้องค์การเภสัชกรรมเร่งจัดหาเพิ่มให้มากที่สุด ด้วยวิธีการประมูล เนื่องจากจะได้ราคาที่ดีกว่า และขายที่ราคาต้นทุนเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากช่วงนี้มีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และประชาชนตรวจมากขึ้น เพื่อจะได้ดำเนินกิจการกิจกรรมได้สะดวก ในส่วนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ขณะนี้ยังมีชุดตรวจ ATK อยู่อีกล้านกว่าชุด ได้สั่งการให้กระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายให้มากและเร็วที่สุด ส่วนผู้นำเข้าที่ได้รับอนุญาต สามารถนำเข้าชุดตรวจได้ และส่งให้ตรวจสอบประสิทธิภาพว่าเป็นไปตามขึ้นทะเบียนไว้ โดยราคาให้ยึดตามกลไกตลาดเป็นหลัก
ทั้งนี้ การชะลอรับนักท่องเที่ยวแบบ Test and Go ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาลดลง ด้วยคำนึงถึงความปลอดภัยของคนในประเทศเป็นหลัก มุ่งเน้นคนไทยที่เดินทางไปยังต่างประเทศ ในช่วงเดือนธันวาคม เดินทางเข้าประเทศ ขณะนี้มีผู้ที่ลงลงทะเบียนในระบบ Test and Go ที่รอการเดินทางอีกประมาณ 10,000 คน ซึ่งกรมควบคุมโรคยืนยันว่าสามารถรับได้ จึงขอให้คนไทยเดินทางกลับประเทศโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย ส่วนการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ จะต้องดูสถานการณ์และอัตราการติดเชื้อในประเทศต่อไป
