พบตัวแล้ว 5 โจ๋มือบอนจุดระเบิดบอลสีโยนใส่โรงเรียน ตำรวจสำโรงใต้ บุกเชิญตัวถึงบ้าน พบทั้งหมดเป็นโจ๋วัย 15-17 ปี อ้างทำไปด้วยความคะนอง ขณะที่ทางโรงเรียนไม่ติดใจเอาความ เป็นห่วงอนาคตของชาติ
อ่านข่าว วัยรุ่นสำโรงใต้เหิมเย้ยกฎหมายขี่จักรยานยนต์ปาระเบิดปิงปองใส่โรงเรียนอนุบาล
จากกรณีที่มีเยาวชนขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์กันมาสองคันรวม 5 คนขี่กันมาที่หน้าโรงเรียนวัดโยธินประดิษฐ์ ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พื้นที่รับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ก่อนที่หนึ่งในห้าจะจุดระเบิดบอลสี โยนเข้าไปในโรงเรียนตามที่ปรากฏภาพวงจรปิดและนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- คึกคักกว่าทุกปีสุดยอดงานสืบสานประเพณีตีคลีไฟหนึ่งเดียวในโลก!
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- “วิทยา แก้วภราดรัย” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ยันการแก้ปัญหาน้ำมันแพง เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อประชาชน ไม่หวั่นปัญหาพรรคที่เกิดขึ้น
- คึกคัก นาย"บุ่นเล้ง" อดีตนายกอบจ.ตรัง นำทีมนายกบุ่นเล้ง สมัครครบ 30 เขต ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 22.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.สำโรงใต้ ได้เชิญตัว 5 เยาวชนที่ก่อเหตุพร้อมผู้ปกครองมาที่โรงพัก สภ.สำโรงใต้ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยพบว่าเป็นเยาวชนอายุเพียง 15 ปี จำนวน 4 คนและเยาวชนอายุ 17 ปี อีก1 คน ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริงตามภาพวงจรปิด โดยผู้ก่อเหตุคือเยาวชนอายุเพียง 15 ปี รับว่าที่ทำไปเพราะด้วยความคึกคะนอง ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับนักเรียนในโรงเรียนนี้แต่อย่างใด ตนและเพื่อนเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านอำเภอบางพลี และมีบ้านพักในซอยวัดด่านสำโรง วันเกิดเหตุนึกคะนองจึงชักชวนเพื่อนร่วมแก๊งขี่รถจักรยานยนต์ ออกไปจุดลูกไข่หรือระเบิดบอนสี โยนไปในโรงเรียน เพื่อให้เกิดความเสียงดังเท่านั้น ไม่มีเจตนาทำร้ายใครในโรงเรียน หลังก่อเหตุก็พากันขี่รถจักรยานยนต์แยกย้ายกันกลับบ้านจนมีตำรวจไปตามที่บ้านจึงพากันมามอบตัว ทั้งนี้ทั้งหมดได้สำนึกผิดและขอโทษทางโรงเรียนรวมถึงคณะครูที่ทำให้เดือดร้อน
พ.ต.ท. วีระชนษ์ วงษ์นคร สารวัตรสืบสวน สภ.สำโรงใต้ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุจากทางโรงเรียนจึงระดมฝ่ายสืบสวนลงพื้นสืบหาเบาะแสจนทราบว่าเด็กทั้งหมดเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางพลีจึงติดตามไปที่บ้านพักจนพบตัวและเชิญมาที่โรงพักเพื่อปรับทัศนคติให้กับน้อง ๆ นักเรียนกลุ่มนี้ อีกทั้งทางด้านครูของทางโรงเรียนไม่ติดใจเอาความเพราะเห็นว่ายังเรียนอยู่เพื่อไม่ให้ตัดอนาคตของเด็กและให้โอกาสกลับตัวจึงไม่เอาความทางคดี ในครั้งนี้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำประวัตินักเรียนกลุ่มนี้เอาไว้พร้อมทั้งแจ้งผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดหากพบว่าไปก่อเหตุอีกนอกจากจะถูกดำเนินคดีแล้วผู้ปกครองก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: