ปราจีนบุรี – รอดตายปาฏิหาริย์หนุ่มตัดยูคาหายตัวกลางป่าช้าง 21 วัน พื้นที่ ใกล้แนวป่ารอยต่อภาคตะวันออก อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา
เมื่อวันที่ 11 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี รับแจ้งว่า พบตัว นายทองสา วันทุมมา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 22 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ภายหลัง นายทองสา ไปรับจ้างตัดยูคาลิปตัสกับญาติที่บ้านเนินหินแร่ ต.กระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และหายตัวออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายทองสาบอกกับญาติที่มารับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัสว่า จะกลับบ้าน ระยะทางห่างกัน 30 กม.หลายวันต่อมา หลังจากญาติที่ตัดยูคาฯเสร็จแล้วกลับมาบ้าน และได้มาถามว่า นายทองสาได้กลับมาบ้านหรือยัง แม่นายทองสาบอกว่า ยังไม่เห็นกลับมา สร้างความงุนงงให้กับญาติญาติที่ไปตัดยูคาฯด้วยกันอย่างมาก จากนั้นได้ติดตามหาตัวนายทองสา ระหว่างทางซึ่งเป็นป่ายูคาลิปตัสและป่ายางของเอกชนซึ่งเป็นทางลัดที่ใช้สัญจรผ่านไปมาระหว่างหมู่บ้าน โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ระดมกำลังกันค้นหาวันละ 50 คน แต่ก็ไม่พบตัว
วันต่อมา ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจ สภ.วังคู ว่าพบรถจักรยานยนต์สีแดงของนายทองสา จอดอยู่กลางป่ายางพารา ญาติยืนยันว่า รถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อด้าเวฟสี แดง-ดำทะเบียน 1กจ-371 สระแก้ว เป็นรถของนายทองสา ตำรวจจึงได้นำรถคันดังกล่าวไปเก็บไว้ที่ สภ.จากนั้นญาติได้ตามหาตัวนายทองสาอย่างต่อเนื่อง และทำทุกวิถีทางทั้งสายวิทยาศาสตร์และหมอดู ทำพิธีขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในป่า เพื่อขอให้พบตัวนายทองสาโดยเร็ว แต่ก็ไม่มีท่าทีว่า จะพบตัวนายทองสาแต่อย่างใด การค้นหาตัวนายทองสาทุกคนเริ่มถอดใจ เพราะปูพรมค้นหาอย่างละเอียดแต่ก็ไม่มีวี่แววว่า จะพบตัว ญาติ ๆ พูดตรงกันว่า การที่นายทองสาหายตัวอย่างลึกลับในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากนายทองสาขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ และเกิดพบกับช้างป่า ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะมีฝูงช้างป่าอ่างฤาไนฝูงใหญ่มาหากินอยู่บริเวณดังกล่าวทุกวัน ขณะที่นายทองสา ขับรถมาเจอช้าง และวิ่งหนีช้างไม่พ้น อาจถูกช้างทำร้ายเสียชีวิตและนำศพไปซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่ง และไม่ตัดประเด็นจี้ชิงทรัพย์เพราะเป็นเส้นทางเปลี่ยว
ข่าวน่าสนใจ:
- สงขลา M79 ถล่มเเคมป์คนงานสร้างเจ้าแม่กวนอิม บาดเจ็บ 3 ราย พื้นที่ อ.เทพา
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- พบศพต่างชาติลอยอืดกลางอ่าวสัตหีบ สวมกางเกงตัวเดียว ข้อมือสัก อักษร HOPE CLUB ยังไม่ทราบว่าถูกฆ่าโยนทิ้งทะเลหรือจมน้ำตาย
- ค่ายรถยนต์ ผุดบูธเพิ่มช่องทางปั๊มยอดช่วงปลายปี หลังตลาดยังซบยาวต่อเนื่อง
กระทั่งวันนี้ ได้พบตัวนายทองสา ที่บ้านกระบกหวาน ต.ท่ากระดาน ญาติจึงพากันไปดูตัวว่า ใช่นายทองสาหรือไม่ เมื่อไปถึงพบว่า เป็นนายทองสาจริง ๆ จากนั้นได้นำตัวไปที่ สภ.วังคู โดยญาติได้พยุงตัวนายทองสาไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน นายทองสาอยู่ในสภาพที่อิดโรย ญาติต้องพยุงตัวเดินเนื่องจากอ่อนแรง ไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน
ทั้งนี้ นายทองสา กล่าวว่า ขณะที่ขับรถจะกลับบ้านระหว่างทางนั้น ได้พบเห็นช้างตัวใหญ่ 2 ตัว อยู่ทางด้านหน้า จึงจูงรถเข้าแอบอยู่ในป่า และไม่กล้าออกจากป่า เพราะกลัวช้างจะทำร้าย และได้นอนอยู่ที่ตรงนั้น 1 คืน จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้เลย และได้ออกเดินเท้าทุกวันพยายามที่จะหาทางออกแต่ก็หาทางออกไม่พบ ไม่ได้กินอะไรเลย ได้กินแต่น้ำที่อยู่ในหนองในคลองอยู่ในป่า เพื่อประทังชีวิต นอนก็หานอนอยู่ในป่า ยิ่งเดินหาทางออกไป ดูเหมือนว่าป่านั้นกว้างใหญ่ หาทางออกไม่พบ จึงตัดสินใจเดินไปเรื่อย ๆ และได้ยินเสียงคนตะโกนหา เห็นคนมาเรียกร้องหาตะโกนคำว่า “ไปเลยๆ” ดังอยู่ตลอดเวลา ตนเองจึงเดินไปตามเสียงที่บอกให้ไปเลย ๆ เดินไปเลย” วันนี้เดินออกมาแล้วรวบรวมกำลังเดินมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ตัดสินใจถามชาวบ้านว่า ที่นี่เป็นที่ไหน ชาวบ้านบอกว่า เป็นบ้านท่าทองดำ-กระบกหวาน จึงให้คนไปส่งที่บ้านญาติ จากนั้นญาติได้นำตัวไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ญาติที่ตามไปดูตัว ได้นำสายสิญจ์มาผูกข้อมือเรียกขวัญให้บางส่วน
ทางด้าน พ.ต.ท.รัตนบดินทร์ รอยเวียงคำ รอง ผกก.สภ.วังคู ร่วมกับ ร.ต.อ.เจตนา ปิ่นอนงค์ รองสารวัตรเวรสอบสวน ได้สอบปากคำนายทองสา โดยนายทองสา เล่าว่า ตนเองหนีช้างหลงอยู่ในป่าหลายวัน ไม่ได้กินอะไร กินแต่น้ำเท่าที่มีอยู่ในป่าเพื่อไปทางชีวิต นอนในป่า ทนร้อนทนหนาวทุกวันทุกคืน รองผู้กำกับได้มอบเงินสด 500 บาทเศษ ที่เป็นของนายทองสา ที่ค้นพบอยู่ในกระเป๋าเสื้อคืนให้ต่อหน้าญาติ และมอบรถคืนให้ ต่อมา ญาติได้นำตัวนายทองสากลับมาที่บ้าน โดยมีญาติและผู้เฒ่าผู้แก่ เตรียมด้ายสายสิญจน์เพื่อผูกข้อมือเรียกรับขวัญนายทองสาให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว หลังจากที่ออกจากป่ามาได้ หลายคนพูดว่า นี่เป็นการรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ ซึ่งเกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บังตาไม่ให้นายทองสาออกมาจากป่า ทุกคนที่ออกไปตามหานายทองสา พากันส่งเสียงเรียกให้กลับบ้านเถอะ ๆ นายทองสารู้และเห็นว่า มีคนมาตามเรียกทุกคน เรียกไม่ได้ ได้ยินแต่เสียง บอกว่า ให้ไปเลยให้เดินไปเลยตนจึงได้เดินไปข้างหน้าอย่างเดียว จนกระทั่ง นายทองสาหลุดพ้นดวงตก จึงรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ในป่ามาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านได้เป็นผลสำเร็จ จากนี้ ญาติจะได้ไปแก้บนที่หลายคนได้บนไว้หลาย ๆ ที่ และให้นายทองสาพักผ่อน เนื่องจากอยู่ในสภาพขาอ่อนแรง
————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: