ราชบุรี ในวันนี้( 13 ม.ค. 65 ) เกษตรกรปลูกสับปะรด ในพื้นที่หมู่ 14 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ปลูกสับปะรดแบบกินผลสด และส่งโรงงานสับปะรดกระป๋อง ลงทุนปลูก หมุนเวียนกันไปตลอดทั้งปี แต่มาปีนี้กลับต้องเจอกับปัญหา เนื่องจากมีฝูงหมูป่า และฝูงลิงกัง ที่อยู่ในป่าตามภูเขา ออกมาอาละวาดกัดแทะผลสับปะรดเสียหายจำนวนมาก หลายแปลงเจอปัญหาหนักเสียหายหลายพันกิโลกรัม บางคนไปหาชุดเสื้อผ้า ชุดนอน เอามาสวมหลอกทำเป็นหุ่นไล่กา เพื่อใช้หลอกฝูงลิง ที่มีกว่า 50 ตัว ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านในพื้นที่ว่าสามารถป้องกันได้ ก่อนที่ฝูงลิงมาในไร่ จะมีจ่าฝูงตัวใหญ่มาก ขึ้นปีนป่ายไปบนต้นไม้สูง เพื่อดูลาดเลาก่อนว่ามีคนอยู่ในไร่หรือไม่ ถ้าไม่มีก็จะโก่งคอร้องเรียกพรรคพวกให้เข้าไปกินสับปะรดได้อย่างสบายใจ
จากการสอบถามเจ้าของไร่ทราบว่า ฝูงลิงจะมาเวลา เช้าประมาณ 9.00-10 .00 น. ส่วนช่วงเย็นประมาณ 16.00-17.00 น. ชาวบ้านเคยเอาประทัดปิงปองจุดไล่ ก็แค่เกิดความกลัวไม่นานก็จะกลับมาใหม่ อีกทั้งเริ่มมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว เพราะไม่ได้มีการควบคุมประชากรลิง เนื่องจากพื้นที่ในป่าไม่มีอะไรให้หากินได้อีก จึงพาพวกกันมาออกหากินบริเวณชายป่า ซึ่งมีเกษตรกรปลูกสับปะรดไว้ ได้รับความเสียหายหลายพื้นที่ ของแต่ละหมู่บ้านที่อยู่แนวชายป่า ยังไม่สามารถหาแนวทางแก้ไขได้อย่างยั่งยืนและได้ผลจริงจัง แม้จะพยายามใช้เสื้อผ้าสีสันสดใสให้เห็นเด่นชัดเพื่อที่จะให้ฝูงลิงกลัว
จากการสอบถามนางสุนันท์ เรณูแย้ม อยู่บ้านเลขที่ 148 /3 หมู่ 14 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา กล่าวว่า เช่าที่ดินประมาณ 20 ไร่ มา 8 ปีแล้ว ลงทุนปลูกสับปะรด ส่วนสาเหตุที่ฝูงหมูป่า และฝูงลิงลงมาอาละวาดกัดกินสับประรดน่าจะเกิดจากพื้นที่ป่าเริ่มแห้งแล้ง ไม่มีลูกไม้ให้กิน ทำให้ฝูงลิงออกมาหากินด้านชายป่า แม้นำหุ่นไล่กาไปแขวนไว้ ช่วงแรกรู้สึกกลัว แต่มาตอนหลังเหมือนรู้ว่าเป็นของปลอมก็เลยไม่กลัวแล้ว ลงทุนทั้งค่ารถไถ ค่าจ้างปั่น ค่าหน่อพันธุ์ หมดเป็นหมื่นบาทต่อไร่ 1 ไร่หากเก็บเกี่ยวผลผลิตจะได้ประมาณ 10 ตัน คาดว่าเมื่อสับปะรดแก่ สามารถเก็บผลผลิตได้ทั้งหมดประมาณ 200 ตัน แต่มาถูกฝูงลิงกัดกินทำลายผลสับปะรดอายุได้ประมาณ 3 เดือน ซึ่งคงเหลืออีก 2 เดือนเศษ ก็จะตัดขายส่งเข้าโรงงานได้เงินแล้ว จากการเดินสำรวจพบว่าถูกฝูงลิงกัดกินทำลายไปแล้วกว่า 1 ตัน หรือ 1,000 กิโลกรัม เสียหายเป็นเงินเกือบหมื่นบาท เนื่องจากสับปะรดที่ส่งขายเข้าโรงงานตอนนี้ อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 6 บาท ซึ่งหากอนาคตสับปะรดมีการขยับราคาแพงขึ้น แต่กลับไม่มีสับประรดขาย นอกจากนี้พื้นที่หมู่ 2 บ้านหนองโก หมู่ 4 บ้านหนองพันจันทร์ ก็ได้รับความเสียหายถูกฝูงลิงทำลายผลผลิต ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน โดยยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปหาแนวทางแก้ไขให้กับชาวบ้านได้
