สสจ.น่าน เผยข้อมูลสุ่มตรวจพันธุกรรมโควิด 6 ตัวอย่างจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงพบสายพันธุ์โอมิครอนคาดติดเชื้อกว่า 300 ราย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดน่าน หลังพบการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วพบผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาหลังจากวันหยุดยาว ประชาชนเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ จากการอนุญาตให้นักดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คืนส่งท้ายปีได้ถึง 01.00 น. พบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 600 ราย เร่งเปิด รพ.สนาม ศูนย์พักคอย กว่า 1,600 เตียงเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ
ด้าน นายแพทย์ วรินทร์เทพ เชื้อสำราญ นายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดน่าน เปิดเผยข้อมูลว่า ในส่วนของจังหวัดน่านได้มีการสุ่มตรวจเป็นระยะ ล่าสุดพบว่ามี 6 ตัวอย่างผลออกมายืนยันเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ใน 6 ตัวอย่างจะอยู่ใน 4 อีเว้นท์ ในช่วงนี้จะมีผู้ติดเชื้ออยู่เป็นจำนวนมาก ที่มีการแพร่ระบาดเชื่อมโยงกันกับร้านอาหารที่สามารถดื่มเครื่องดื่มทีมีแอลกอฮอล์ได้
โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยคลัสเตอร์นี้พบผู้ป่วยถึง 200 กว่าราย ส่วนใหญ่กระจายอยู่ในอำเภอเมือง ส่วนหนึ่งทำการรักษาตัวอยู่ที่บ้านประมาณ 150 คน และที่เหลือรักษาอยู่ในโรงพยาบาลสนามและศูนย์พักคอย โดยหลังๆมา พบว่าผู้ป่วยติดเชื้อค่อนข้างที่จะมีอาการน้อยมาก หรือไม่มีอาการเลย
ส่วนใหญ่ที่ตรวจพบเพราะว่าผู้ป่วยเข้ารับการตรวจหาเชื้อเพราะรู้ตัวว่าตนเองมีความเสี่ยง ไปขอรับการตรวจยังสถานที่ที่ทางสำนักงานสาธารณสุขได้ตั้งจุดตรวจหาเชื้อ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลต่างๆ ตามด่านบูรณาการ และจุดตรวจพิเศษ ทั้งที่สนามบิน และสถานีขนส่งผู้โดยสาร
ปัจจุบันมีการรักษาตัวอยู่ประมาณ 500 กว่าราย โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละ 50-60 รายส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์สถานบันเทิงและจากการสุ่มตรวจก็พบว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอน
จากการทำการสอบสวนโรคคาดว่าต้นตอของการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน เกิดจาก สามีชาวต่างชาติพร้อมภรรยาคนไทย ได้เดินทางมาท่องเที่ยว และได้เข้าไปดื่มกินฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ร้านอาหารเมื่อคืนส่งท้ายปี 31 ธันวาคม ต่อเนื่องถึงวันที่ 1 มกราคม จากนั้นวันต่อๆ มาได้ตระเวนไปนั่งดื่มกินในร้านที่เปิดให้มีการนั่งดื่มแอลกอฮอล์อีกหลายร้าน เกิดการแพร่เชื้อให้นักเที่ยว และบริกรในร้าน แต่ไม่แสดงอาการผู้รับเชื้อก็มีการเที่ยวดื่มกินตามร้านต่างๆ ไปในหลายอำเภอเกิดการแพร่กระจาย เฉพาะคลัสเตอร์ดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 300 ราย และที่ติดเชื้อแล้วไม่รู้ตัวเพราะไม่มีอาการยังไม่ทราบจำนวน
