กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี สั่งเร่งมาตรการลดภาระประชาชน และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ให้คลังเร่งเดินหน้าโครงการคนละครึ่งเฟส 4 เร็วขึ้น เตรียมเปิดลงทะเบียนเป็นของขวัญวาเลนไทน์ 14 ก.พ.65 เริ่มใช้จ่าย 21 ก.พ.
วันที่ 15 มกราคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนทุกกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพ จึงสั่งเร่งบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่ยังส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง เร่งรัดโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ให้เร็วขึ้น จากเดิมที่กำหนดออกมาตรการไว้ประมาณช่วง เดือนมีนาคม-เมษายน 2565 หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อ 21 ธันวาคม 2564 เห็นชอบโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและกระตุ้นกำลังซื้อประชาชน
ล่าสุด กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นำเสนอเรื่องดังกล่าว ให้แก่ คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดการดำเนินโครงการ เช่น จำนวนสิทธิที่จะเข้าร่วมโครงการ วันแรกที่จะเปิดรับลงทะเบียน ซึ่งเบื้องต้นจะสามารถเปิดลงทะเบียนวันที่ 14 ก.พ.65 และเริ่มใช้จ่ายได้ในวันที่ 21 ก.พ.65
สำหรับเงื่อนไขและรายละเอียด ว่าจะได้รับวงเงินสิทธิ์เท่าไหร่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องรอคณะกรรมการกลั่นกรองอนุมัติวงเงินก่อน จากนั้นจึงจะจัดทำแนวทาง เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง แล้วจึงสามารถเปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 4 ต่อไป ทั้งนี้ วงเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 จะนำมาจากพระราชกำหนดเงินกู้ฉุกเฉิน 5 แสนล้านบาท ที่ถูกจัดไว้เพื่อใช้ในการดูแลเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และก่อนหน้านี้ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ยังมียอดใช้จ่ายไม่เต็มจำนวน เหลือวงเงินที่ส่งคืนรัฐอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
“โครงการคนละครึ่งเฟส 4 นี้ ครอบคลุมกลุ่มคนที่มีแอปเป๋าตังและผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการใหม่ รวมทั้งโครงการอื่นที่ดูแลกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ควบคู่ไปพร้อมกัน โดยจะมีส่วนในการลดภาระของประชาชน ช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ” นายธนกร กล่าว
พร้อมปฏิเสธกระแสข่าว จะให้ประชาชนกลุ่มเก่าที่เคยได้รับสิทธิ์ กดยืนยันสิทธิ์ และให้ประชาชนกลุ่มใหม่อีก 5 ล้านคน ลงทะเบียนเข้าร่วม โดยจะมีการเปิดรับลงทะเบียน ในวันที่ 16 มกราคมนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังออกมาชี้แจงแล้วว่า ไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ
