ชัยภูมิ – ชาวบ้านใกล้เคียงพากันแตกตื่นวิ่งหนีตายออกจากบ้านอลหม่าน ก่อนเพลิงไหม้รถได้รับความเสียหายอย่างรวดเร็ววอดทั้งคัน หวุดหวิดถูกย่างสดคาซาก!
เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 18 ม.ค.65 ร.ต.อ.เรืองศิลป์ ปะวิสุทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดใหญ่ รับแจ้งเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้รถบรรทุกฟางอยู่ที่ บริเวณก่อนถึง 3 แยกบ้านลาดใหญ่ ถนนสายอำเภอคอนสวรรค์-บ้านลาดใหญ่ ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมประสานรถน้ำจากเทศบาลตำบลลาดใหญ่ และหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมจุดลาดใหญ่ เข้าช่วยกันดับไฟ
ในที่เกิดเหตุพบเพลิงอยู่ระหว่างกำลังโหมลุกลามจากด้านหลังของตัวรถบรรทุกยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน 86-1131 หมวดจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งกำลังบรรทุกฟางมาเต็มคัน เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังฉีดน้ำสกัด แต่เนื่องจากไฟโหมลุกไหม้ฟางที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ไฟไหม้ลามจนถึงหน้ารถจนหมดคันต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไหม้รถครั้งนี้ไว้ได้
จากการสอบถามนายชานนท์ วงษ์น้ำคำ อายุ 37 ปี ชาวบ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 7 ตำบลนางรำ อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นคนขับรถดังกล่าว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั้นได้ขับรถมาจากปะทาย เพื่อที่จะมานำฟางที่อำเภอแก้งคร้อ กลับไป อ.ประทาย แต่พอขับออกมาจากอำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ เพื่อที่จะกลับบ้าน พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งบริเวณดังกล่าวไม่มีไฟส่องสว่างเพียงพอ ตนจึงทำการดับเครื่องยนต์ ก่อนที่จะลงมาตรวจสอบว่ามีเชือกที่มัดฟางไว้ท้ายรถดีพอหรือยัง ระหว่างที่ตนกำลังมัดเชือกอยู่นั้นจู่ๆก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมาจากบริเวณช่วงไฟท้ายรถ ทำให้รถเกิดมีการสตาร์ทเครื่องเอง และวิ่งไปไปข้างหน้า ก่อนที่จะเกิดไฟลุกท่วมคันอย่างรวดเร็วขึ้น
ส่วนชาวบ้านใกล้เคียงผู้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ในละแวกดังกล่าว ก็พากันวิ่งออกจากบ้านอย่างแตกตื่นเพราะเกิดเสียงรถระเบิดจนไฟไหม้ลามท่วมคัน ทำให้ชาวบ้านใกล้เคียงต่างพากันหอบลูกหอบหลานวิ่งออกจากบ้านอลหม่านระหว่างเกิดไฟไหม้รถจอดอยู่ใกล้บ้านคนใกล้เคียง
ต่อมาทางด้าน ร.ต.อ.เรืองศิลป์ ปะวิสุทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ลาดใหญ่ หลังมีการขอกำลังเจ้าหน้าที่มาช่วยกันดับไฟไหม้รถอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมงไว้ได้ หลังได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมทั้งเชิญตัวคนขับรถไปสอบสวนเพิ่มเติมซึ่งเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากระบบไฟของรถดังกล่าวเกิดอาการมีไฟช็อตในระบบไฟเครื่องยนต์ และเกิดประกายไฟมาไหม้ฟางที่บรรทุกมาอย่างรวดเร็วได้ และเพื่อหาสาเหตุและให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สภ.เมืองชัยภูมิ เข้าช่วยตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสาเหตุเหตุครั้งนี้ที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป
