ฉะเชิงเทรา – พ่อเมืองแปดริ้ว เดินตรวจตลาดสดเน้นผู้ค้าขึ้นป้าย “ปศุสัตว์ OK” สร้างความมั่นใจผู้ซื้อในกลุ่มสินค้าเนื้อสัตว์ และปิดป้ายแสดงราคารับเทศกาลตรุษจีนพร้อมแจกจ่ายฟ้าทะลายโจรอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด 19 แนะประชาชนแจ้งสายด่วน “แปดริ้วไม่ทิ้งกัน” 038-512-222 หากพบการกักตุนผิดปกติและจำหน่ายสินค้าไม่เป็นธรรม ด้านผู้ค้าบ่นคนเดินตลาดน้อยคนซื้อถอยจากภาวะข้าวของขึ้นราคาแพง
วันที่ 21 ม.ค.65 เวลา 08.30 น. นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ฝ่ายปกครอง ศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้เดินทางลงพื้นที่ตลาดสดบ่อบัว ตั้งอยู่ริมถนนชุมพล ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ และสุกร ก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนในช่วงปลายเดือนนี้
ซึ่งพบว่าร้านค้าส่วนใหญ่ ได้มีการติดป้ายแสดงราคาสินค้าไว้ ทั้งราคาผัก ผลไม้ เนื้อไก่ เนื้อสุกร และหัวหมู ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้สำหรับการประกอบพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยไม่พบว่ามีการกักตุนสินค้า ส่วนราคาสินค้าที่มีการวางจำหน่ายค่อนข้างสูงนั้น เป็นไปตามกลไกของตลาด โดยระหว่างการเดินตรวจสอบราคาสินค้า นายไมตรี ยังได้นำฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล พร้อมด้วยเจลล้างมือ และหน้ากากอนามัยไปเดินแจกจ่ายแก่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดด้วย
หลังการเดินตลาดแล้ว นายไมตรี ยังได้แนะนำต่อประชาชนผู้บริโภคด้วยว่า ก่อนที่จะซื้อสินค้าเพื่อนำไปบริโภค ควรดูในร้านด้วยว่า ที่ร้านได้มีการขึ้นป้าย “ปศุสัตว์ OK” หรือไม่ เพื่อเป็นการรับรองว่าทางร้านได้มีการนำเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์มาวางจำหน่าย เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคเอง โดยหากพบว่ามีความผิดปกติ หรือมีการกักตุนสินค้าสามารถแจ้งได้ที่ “สายด่วนแปดริ้วไม่ทิ้งกัน 038-512-222” ก่อนที่คณะตรวจสอบราคาสินค้าจะเดินทางต่อไปยังที่ตลาดทรัพย์สินฯ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน
โดยระหว่างที่นายไมตรี ได้เดินผ่านเพื่อเข้าตรวจสอบร้านค้าต่างๆ และแวะเข้าเยี่ยมชมภายในร้านค้า ได้มีร้านค้าหลายแห่งเอ่ยปากบอกต่อทางผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ถึงสภาพการค้าขายในปัจจุบันนั้นค่อนข้างเงียบเหงามาก โดยเฉพาะช่วงเว้นระยะห่างจากสถานการณ์โควิด 19 ระบาด และยังมีบางร้านที่จำหน่ายเนื้อสุกรต่างบอกในทำนองเดียวกันว่า ขายสินค้าได้น้อยลงจากราคาเนื้อสุกรที่ขยับแพงขึ้นมาก
โดยเฉพาะลูกค้าที่มาซื้อไปขายต่อนั้น เมื่อเขาซื้อไปแล้วขายต่อในราคาที่สูงขึ้นไม่ได้ จึงไม่ได้มารับซื้อไปขายอีก โดยปัจจุบันมีเพียงผู้ที่ต้องการที่จะซื้อเนื้อสุกรไปบริโภคเท่านั้น ที่ยังมีเข้ามาซื้อเพื่อนำไปปรุงเป็นอาหารบริโภคกันเองภายในครอบครัว จึงจำหน่ายเนื้อสุกรได้น้อยลง
