คืบหน้าคู่อริยิงถล่มเด็กเทคโนย่านนนทบุรีเจ็บ 2 ราย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเข้มเข้า-ออกหน้ามหาวิทยาลัย ส่วนเก๋งซีอาร์วี ที่พบในกล้องวงจรปิด ตรวจสอบทะเบียนพบว่าเป็นทะเบียนปลอม
คืบหน้ากรณีเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 ม.ค.2565 เกิดเหตุวัยรุ่นน่าจะเป็นคู่อริต่างสถาบันพาพวกมายิงถล่มใส่เด็กนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ขณะนั่งอยู่ในโรงอาหาร ซึ่งเหตุการณ์นี้มีนักศึกษาถูกยิงบาดเจ็บ 2 ราย ที่เกิดเหตุพบรอยกระสุนทะลุกระจกและเสาปูนตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- “คูโบต้า พลังใจสู้ภัยหนาว” ร่วมกับ“กองทัพบก” จัดคาราวานเสื้อกันหนาว เดินหน้ามอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน
- ตร.น้ำกระบี่ บุกรวบ 3 ลูกเรือประมง ยึดยาบ้า พบมั่วสุมเสพ ก่อนออกจับปลา
- พิธีมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-กระบือ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- ขอนแก่น เอาจริงลุยปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด ในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น ได้ผู้ต้องหา 4 ราย หลังชาวบ้านแจ้งเบาะแส
ล่าสุดวันนี้ทางสืบสวนสภ.เมืองนนทบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุใช้หลบหนี ตอนนี้ได้เร่งติดตามหาตัวกลุ่มนักศึกษาของมหาลัยสุวรรณภูมิที่อยู่ในกล้องวงจรปิดเพื่อจะเรียกมาสอบปากคำ แต่ทั้งหมดยังหลบหนีไม่ยอมให้ความร่วมมือ ขณะที่ทางพนักงานสอบสวน ได้เร่งตรวจสอบรายชื่อกลุ่มนักศึกษาที่อยู่ในภาพวงจรปิด เมื่อทราบชื่อที่ชัดเจนจะออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน อีกทั่งตรวจสอบทะเบียนรถเก๋งฮอนด้า รุ่น ซี อาร์ วี พบว่าเป็นทะเบียนปลอม
ส่วนที่บริเวณด้านหน้ามหาลัย วันนี้ทาง รปภ.จะเข้มงวดกับบุคคลที่จะเข้าไปภายใน มีการตรวจสอบบัตรประชาชนรวมทั้งค้นรถด้วย
ทีมข่าวได้คุยกับนายณรงค์ พันธุนันท์ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่รปภ.ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 อาทิตย์ มีกลุ่มวัยรุ่นมาดักยิงนักศึกษาขณะกำลังเดินข้ามถนนเข้ามหาลัย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
จากข่าวเชิงลึกของพยานรายหนึ่งให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของคู่อริสถาบันก่อสร้างชื่อดังในพื้นที่กทม. เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางกลุ่มนักศึกษาม.สุวรรณภูมิ ไปรุมทำร้ายเด็กสถาบันดังกล่าว ขณะออกจากโรงหนังในห้างย่านบางใหญ่หลังไปดูหนัง 4 คิงส์ จนทำให้สถาบันดังกล่าวเกิดความแค้นพยายามตามมาเอาคืน ซึ่งเรื่องนี้ทางเด็กมหาลัยสุวรรณภูมิ ก็ทราบข่าวจึงมีการเตรียมอาวุธไว้รับมือ สังเกตในคลิปกลุ่มเด็กม.สุวรรณภูมิก็มีการใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้เหมือนกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: