ชาวบ้านในชุมชนซอยนกแก้วผวา จับลูกจระเข้ยาว 1 ฟุตได้ในคลองท้ายซอย ซึ่งคลองในชุมชนนกแก้วแห่งนี้ เมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมาก็พบจระเข้ตัวขนาดใหญ่ยาวประมาณ 2 เมตร 1 ตัว ว่ายอยู่ในคลองดังกล่าว
อ่านข่าว ชาวบ้านผวาพบจระเข้ขนาดใหญ่โผล่ในหนองน้ำกลางชุมชนท้ายซอยนกแก้ว
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 27 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ได้เดินทางไปรับตัวลูกจระเข้ที่มีลำตัวยาวประมาณ 1 ฟุต ที่ชาวบ้านในชุมชนซอยนกแก้ว ถนนท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จับตัวเอาไว้ได้ในขณะที่ไปนั่งตกปลาอยู่ในคลองข้างรั้วกำแพงของฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ และลูกจระเข้ตัวดังกล่าวมากินเบ็ดชาวบ้านจึงได้ช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้ ก่อนที่จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิไปรับตัวมาเพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูแล
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- "มรสุม" ลูกแรกถึงนราฯแล้ว 20 - 26 พ.ย.67 !!!
- สูงวัยตรัง ปลื้ม เตรียมตัวรับเงินหมื่น ฝันใช้ยามแก่-ต่อยอดอาชีพบั้นปลาย
โดยนายสุรชัย สุดามา เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ รหัสบัวหลวง 403 ได้เล่าว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนในชุมชนซอยนกแก้ว ถนนท้ายบ้าน ว่าจับลูกจระเข้เอาไว้ได้ จึงแจ้งให้ทางมูลนิธิเข้าไปรับตัวมาเพื่อนำไปส่งมอบให้หน่วยงานเกี่ยวข้องนำไปเลี้ยงดู ซึ่งคลองในชุมชนนกแก้วแห่งนี้ เมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมาก็มีชาวบ้านได้พบเจอจระเข้ตัวขนาดใหญ่ความยาวประมาณ 2 เมตรมาแล้วตัวหนึ่งว่ายน้ำอยู่ในคลองดังกล่าว จึงประสานผู้เชี่ยวชาญด้านการจับจระเข้ ของฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ และมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ มาช่วยกันจับไปแล้วตังหนึ่ง ตามที่มีนำเสนอข่าวไปแล้ว และมาในวันนี้ก็สามารถจับลูกจระเข้เอาไว้ได้อีก 1 ตัวซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าเจ้าลูกจระเข้ตัวดังกล่าวมาจากที่ใด หรือยังมีหลงเหลืออยู่ในคลองดังกล่าวอีกไม่ จึงอยากฝากเตือนประชาชนที่พักอาศัยอยู่ใกล้ลำคลองดังกล่าวให้ระมัดระวังตัวด้วยเพราะยังไม่รู้ว่าในคลองดังกล่าวยังมีจระเข้หลงเหลืออยู่อีกหรือไม่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: