X

ครู-นร.วอนโจรขโมยสตั๊ดรีบมอบตัวนำของที่เหลือโทรศัพท์ต้องใช้เรียนออนไลน์มาคืน! (คลิป)

ชัยภูมิ – หลังทาง จนท.ตร.ภาค 4 ตรวจพบรถเก๋งโจรขโมยแสบรายนี้ก่อเหตุที่ จ.ชัยภูมิ นำไปจอดทิ้งๆไว้ที่ จ.ขอนแก่น ค้นภายในรถพบรองเท้าสตั๊ดและชุดกีฬาของนักเรียนโรงเรียนคอนสวรรค์ ของจังหวัดชัยภูมิ ที่ถูกขโมยไปตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.ยังอยู่ครบ ชุดถูกทิ้งภายในรถเก๋ง ส่วนตัวโจรขโมยแสบรายนี้ยังหลบหนีไปได้ ก่อนที่วันนี้ทาง ตร.เมืองขอนแก่นได้ส่งมอบ อุปกรณ์รองเท้ากีฬาพร้อมรถเก๋งคันก่อเหตุมาให้ ตร.ท้องที่ชัยภูมิ ประสาน คณะครูและเด็กนักเรียน มาตรวจสอบทรัพย์ที่ถูกขโมยไปทั้งหมด ล่าสุดทรัพย์ที่เป็นรองเท้าสตั๊ดที่หายไปทั้งหมด 11 รายการได้คืนมาทั้งหมดและจะได้ส่งมอบคืนให้เด็กได้นำไปฝึกซ้อมกีฬาฟุตบอลต่อได้ทั้งหมดแล้ว

แต่ยังเหลือทรัพย์สินมีค่าทั้งโทรศัพท์มือถือของน้องนักเรียนโจรรายนี้ยังขโมยนำติดตัวหายไปด้วย รวมมูลค่าร่วมอีกกว่า 35,000 บาท ซึ่งน้องเด็กนักเรียนวอนโจรรายนี้รีบมอบตัวและนำมาขึ้น เพราะต้องยังได้รับผลกระทบการออนไลน์ผ่านโทรศัพท์ในช่วงโควิด-19 ระบาดอีกต่อเนื่อง ทั้งด้าน ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ เผยยังพบว่าโจรรายนี้ยังมีประวัติเคยเป็นครูมาก่อนอีกด้วย และมาก่อเหตุที่กระทบต่อการเล่นกีฬา การเรียนของเด็กอนาคตของชาติ ควรรีบกลับใจสำนึกผิดรีบมอบต่อ จนท.ตร.โดยเร็วจะดีกว่าถูกตามจับได้ โทษหนักจะได้เป็นเบาลงได้บ้าง

( 29 ม.ค.65 ) ความคืบหน้าคดีโจรแสบขโมยรองเท้าสตั๊ดนักเรียนของโรงเรียนคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ หายไปยกทีมระหว่างยังไม่ทันได้ลงแข่งขันกีฬาเยาวชนนักเรียนโซนหุบเขาประจำจังหวัด ปี 2565 เมื่อช่วงวันที่ 24 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ทำให้เด็กนักเรียนทั้งหมด 13 ชีวิต ทั้งทีมต้องตกรอบในการแข่งขันกีฬาตัวแทนเยาวชนประจำจังหวัดชัยภูมิ ในครั้งนี้ไปอย่างน่าเศร้าใจ

ก่อนที่จะมีการตรวจสอบมีภาพกล้องวงจรปิดจับภาพมีรถเก๋งหัวขโมยแสบรายนี้เป็นคนลงมือขโมยขึ้นรถเก๋งหายไป และได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยภูมิ ให้เจ้าหน้าที่เร่งช่วยติดตามจับกุมโจรแสบรายนี้มาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 24 ม.ค.65 ที่ผ่านมา

ซึ่งทาง จนท.ตร.สภ.เมืองชัยภูมิ ตรวจพบว่าโจรรายนี้ มีประวัติก่อคดีมาโชกโชน ซึ่งมีการออกแจกจ่ายภาพหมายจับรูปพรรณโจรแสบรายนี้ ซึ่งเป็นชาว จ.กาฬสินธุ์ ที่มีหมายจับและหนีคดีลักทรัพย์มาต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564 ที่ผ่านมาในพื้นที่หลายจังหวัด มาตั้งแต่ขโมย รถ จยย.มาจาก จ.รอยเอ็ด นำไปทิ้งไว้ที่สนามกีฬา จ.สิงห์บุรี และขโมยรถเก๋งดังกล่าวมาต่อเพื่อมาก่อเหตุขโมยรองเท้าสตั๊ดนักเรียนที่ จ.ชัยภูมิ หายไปยกทีมครั้งนี้ มีน้องๆได้รับความเสียหายร่วมกว่า 13 ชีวิต และทรัพย์กระเป๋าเงินสด โทรศัพท์มือถือสูญหายไปด้วยครั้งนี้ไปอีกหลายรายการมูลค่านับแสนบาท

จนต่อมาวานนี้ ( 28 ม.ค.65 ) ที่ผ่านมา ทางชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 จังหวัดขอนแก่นได้รับแจ้งว่ามีคนไปพบรถยนต์เก๋งยี่ห้ออัลติส สีเทา-ดำ ป้ายทะเบียน 4 กง 4311 หมวดจังหวัดกรุงเทพมหานคร ที่เจ้าของเดิมได้แจ้งว่าถูกขโมยไปในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นรถเก๋งต้องสงสัยว่าก่อเหตุมาจาก จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.65 ที่ผ่านมาในครั้งนี้ ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ภายในที่จอดปั้มน้ำมัน ใกล้รถสถานีขนส่งจังหวัดขอนแก่น เจ้าหน้าที่จึงทำการเข้าตรวจสอบภายในรถเก๋งดังกล่าว ก็พบมีอุปกรณ์กีฬา เสื้อกีฬา และ รองเท้าสตั๊ดกีฬาจำนวนมากที่ขโมยไปจาก จ.ชัยภูมิ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จ.ขอนแก่น จึงทำการตรวจยึดและจะนำมอบหลักฐานให้ตำรวจท้องที่เจ้าของคดีที่ สภ.เมืองชัยภูมิ

มาถึงท้องที่เกิดเหตุที่ สภ.เมืองชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 29 ม.ค.65 ที่ผ่านมาและ มอบให้ พ.ต.อ.สุมิตร  นันท์นฤมิตร ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ได้ประสานคณะครูและเด็กนักเรียนโรงเรียนคอนสวรรค์มาตรวจสอบทรัพย์ที่ได้คืนมาในรถเก๋งที่โจรรายนี้ขโมยไปถูกทิ้งไว้ โดยนายเชิดพงษ์  งอกนาวัง หรือครูต่อ หนึ่งในตัวแทนคณะครูที่นำทีมนักเรียนของโรงเรียนคอนสวรรค์ และตัวแทนนักเรียนที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ทั้งหมดรวม 11 คน มาตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไปล่าสุดพบว่าในส่วนของรองเท้าสตั๊ดทั้งหมดนักเรียนทุกคนได้คืนมาครบ แต่ยังเหลือทรัพย์ที่เป็นเสื้อผ้า กางเกงกีฬาหายไป พร้อมโทรศัพท์มือถือ ที่โจรรายนี้ยังขโมยติดตัวหลบหนีต่อไปได้อีกรวมมูลค่าอีกไม่น้อยกว่า 35,000 บาท ซึ่งทางคณะครูและนักเรียนอยากให้ตำรวจรีบตามจับตัวโจรรายนี้และอยากให้รีบมามอบตัวนำทรัพย์ที่เหลือมาคืนเพิ่มเติมโดยเร็วด้วย เพราะในส่วนของโทรศัพท์มือถือที่หายไปในครั้งนี้ด้วยนั้นยังส่งผลกระทบต่อการเรียนออนไลน์ของเด็กๆนักเรียนอีก 2 คน ตามมาซ้ำหนักอีกในช่วงที่โควิด-19 ยังระบาดอยู่ในขณะนี้ด้วย

หลังสร้างความเศร้ากระทบต่อจิตใจให้กับเด็กๆทั้งหมดที่มีการมาขโมยรองเท้าสตั๊ดหายไปในช่วงที่จะเตรียมการลงแข่งขัน แต่ก็ยังไม่ทันได้ลงแข่ง เพราะสตั๊ดถูกขโมยไปก็ซ้ำเติมกระทบจิตใจน้องๆเด็กนักเรียนทั้งหมดกว่า 13 ชีวิต หนักมากพออยู่แล้ว ซึ่งทำให้เด็กนักเรียนทั้งหมดยกทีมต้องตกรอบในการแข่งขันครั้งนี้ไปแล้ว

ด้าน พ.ต.อ.สุมิตร  นันท์นฤมิตร ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ กล่าวว่า ในส่วนผู้ต้องหาหนีคดีรายนี้ทาง ตร.สภ.เมืองชัยภูมิ ได้ออกหมายจับเพิ่มอีกคดีแล้ว คือ นายสุพจน์  สีเหลื่อมใส อายุ 43 ปี ผู้ก่อเหตุซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการทิ้งรถเก๋งครั้งนี้ หลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ทั้งทาง ตร.ชัยภูมิ และ ตร.ขอนแก่น อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวอย่างต่อเนื่องแล้ว และล่าสุดก็พบมีประวัติว่ายังเคยเป็นถึงครูมาก่อนอีกด้วย ซึ่งก็ไม่อยากให้หลบหนีต่อไปอีกเลย ควรรีบกลับใจมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วดีกว่า ก่อนถูกตามจับกุมตัวได้ โทษจะได้หนักเป็นเบา และไม่อยากให้ไปทำกระผิดโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติต่อไปอีกเลย ทั้งที่เคยเป็นครูมาก่อนอีกด้วย

และในส่วนทรัพย์ที่เป็นอุปกรณ์กีฬารองเท้าสตั๊ดที่ได้คืนมาครั้งนี้บางส่วน ก็จะได้มอบคืนเพื่อปลอบขวัญคืนสภาพจิตใจให้กับเด็กน้องๆ นักเรียนทุกคนได้มีกำลังใจให้กลับมาเล่นกีฬา ตั้งใจเรียนให้เป็นอนาคตของชาติและประเทศไทยที่ดีต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]