ชัยภูมิ – เบื้องต้นเสียหายแล้วกว่า 50 ไร่ ระทึกเกิดไฟไหม้ป่าใกล้กับบ้านเรือนชาวบ้าน หวิดลามไหม้ถึงวิทยาลัยสงฆ์ประจำ จ.ชัยภูมิ จนท.ต้องระดมช่วยกันดับอยู่นานกว่า 1 ชม. เบื้องต้นมีพื้นที่ป่าถูกไฟป่าลามวอดแล้วกว่า 50 ไร่ เร่งแจ้งเตือน ปชช.ช่วยกันเฝ้าระวังปัญหาการเกิดไฟไหม้ป่าในช่วงหน้าแล้งปีนี้ต้องช่วยกันเฝ้าระวังให้มากขึ้น!
เมื่อเวลา 19.00น.เมื่อวันที่ 31 ม.ค.65 ที่ผ่านมา หน่วยดับเพลิง อบต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ รับแจ้งเหตุด่วนเกิดไฟไหม้ป่าที่บริเวณชายป่าใกล้กับบ้านโนนเหลี่ยม หมู่ 14 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ระหว่างหลัก กม.ที่ 2-3 ใกล้กับวิทยาลัยสงฆ์ประจำจังหวัด จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีพระเณรอาศัยอยู่จำนวนมากนับร้อยรูป ช่วงถนนสายชัยภูมิ – หนองบัวแดง
เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงของ อบต.นาฝาย ต้องเร่งระดมรถน้ำ และประสานพื้นที่ใกล้เคียงเข้าช่วยกันสกัดไฟไหม้ป่าเป็นการด่วน ซึ่งพบไฟป่ากำลังโหมไหม้ลุกลามอย่างรุนแรงเป็นบริเวณกว้าง และมีบางจุดเข้าไปลึก และประจวบกับช่วงเกิดเหตุเป็นเวลามืดแล้ว รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปยังบริเวณไฟไหม้ป่าได้ ทำให้การเข้าดับไฟไหม้ครั้งนี้เป็นไปอย่างยากลำลากมากขึ้น และมีพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนที่มีบ้านเรือนใกล้เคียง และสถานที่สำคัญวิทยาลัยสงฆ์ประจำจังหวัดชัยภูมิ ที่อยู่ใกล้เคียงเกิดความเสี่ยงที่ไฟป่าจะไหม้ลามไปสร้างความเสียหายได้ตามมาอีกจำนวนมากได้
ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.นาฝาย และใกล้เคียงต้องวางแผนช่วยกันใช้กำลังเจ้าหน้าที่หน่วยดับไฟป่า ต้องพากันออกเดินเท้าเข้าไปยังจุดไฟไหม้ป่า เพื่อใช้อุปกรณ์ดับไฟไม่ให้ลุกลามหนักต่อไปให้ได้ ด้วยการช่วยกันจัด ชุด จนท.ใช้ไม้ตบเดินดับไฟป่าที่กำลังโหมไหม้เป็นจุด ๆกระจายไปทั่วอย่างรวดเร็วหลายสิบไร่เป็นวงกว้าง ต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมไฟไหม้ป่าในครั้งนี้ไว้ได้เบื้องต้น
เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามเข้าไปยังพื้นที่บ้านเรือนราษฎรที่อยู่ใกล้ และมีพื้นที่ป่าถูกไฟไหม้ในครั้งนี้เสียหายไปแล้วไม่น้อยกว่า 50 ไร่ ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ จึงอยากฝากแจ้งเตือนประชาชนในช่วงนี้บ้านเรือนประชาชนที่มีอยู่ใกล้ในพื้นที่มีหญ้าแห้งตามชายป่าจำนวนมาก และเริ่มเกิดภาวะอากาศร้อนลมแรงเมื่อเกิดไฟป่าแล้วยากต่อการควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ง่าย
ซึ่งจะส่งผลเสียหายต่อสภาพสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล ทั้งเกิดมลพิษทางอากาศ ต้นไม้ขนาดเล็กหรือสัตว์ป่าถูกไฟไหม้ล้มตายตามมาอีกเป็นจำนวนมากได้ง่ายหากประชาชนไม่ใช้ความระมัดระวังในการเผาเพื่อทำการเกษตร หรือขยะ ที่ยังเป็นต้นเหตุของการทำให้มีต้นเพลิง อย่างการขับรถผ่าน มีการสูบบุหรี่ และทิ้งไม่เป็นที่เป็นทางในช่วงสายถนนชัยภูมิ-ตาดโตน ที่มีพื้นที่ป่านรอยต่อในเขตอุทยานแห่งชาติตาดโตน ,อุทยานแห่งชาติภูแลนคา และเขตป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคา ที่ในช่วงนี้มักเกิดไฟป่าทั้งตามธรรมชาติ และโดนเฉพาะจากฝีมือคนที่ลอบเผาป่าล่าสัตว์ เพื่อเก็บหาของป่า และสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ป่าทำให้ค่ามลพิษทางอากาศ หรือค่า PM2.5สูงขึ้นเป็นจำนวนมากเพิ่มขึ้นทุกปี และสร้างความเสียหายให้กับผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์นับหลายพันไร่ถึงนับหลายหมื่นไร่มาเป็นประจำทุกปีมาต่อเนื่องด้วย
