ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มออมทรัพย์เกษตรยังยืน บ้านศรีเจริญ หมู่ที่ 8 ต.เลยวังไสย์ อ.ภูหลวง จ.เลย นายศิริรัตน์ พินิจพานิชย์ ปลัดจังหวัดเลย เป็นประธาน รับมอบเครื่องจักรกลการเกษตร โดยมีนายถนาจศักดิ์ ดวงทิพย์ ผจก.อาวุโส สำนักงานขายภาคอีสาน เป็นตัวแทนบริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้ส่งมอบ ซึ่งมีนายแสวง ดาปะ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มออมทรัพย์เกษตรยั่งยืนบ้านศรีเจริญ พร้อมกับน้องเกษตรกรบ้านศรีเจริญ ร่วมเข้าพิธีรับมอบ
ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มออมทรัพย์เกษตรยั่งยืน ที่มีสมาชิกกว่า 114 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเกษตรปลูกฝ้าย และผลิตจำหน่ายสินค้าฝ้าฝ้าย “ขุนเลย” การย้อมฝ้ายจากธรรมชาติ และร่วมผลิตสินค้าด้านการเกษตรที่ปลอดสารพิษ รวมทั้งเป็นแหล่งเพราะพันธุ์ข้าวเหนียวแดงเมืองเลย ที่ต่างประเทศมีความต้องการ จำหน่ายถึงตันละ 80,000 บาท
นายถนาจศักดิ์ ดวงทิพย์ เผยว่า เนื่องด้วยทางสยามคูโบต้า ได้จัดโครงการ”คูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ” ตลอด 43 ปีที่อยู่เคียงข้างเกษตรกรไทย มีแนวคิดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตกรกรไทย ผ่านความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ผนึกกำลังพัฒนาชุมชนเกษตรให้มีความเข้มแข็ง สนับสนุนเทคโนโลยี นวัตกรรม และองค์ความรู้ด้านการเกษตร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ พร้อมกับเห็นถึงความสำคัญของการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรแบบรวมกลุ่ม จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสการเข้าถึงเทคโนโลยีการเกษตรพร้อมสนับสนุนให้วิสาหกิจชุมชนเรียนรู้ การบริหารจัดการ เครื่องจักรกลการเกษตร นำไปประยุกต์ใช้กับชุมชน เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และสร้างรายได้หมุนเวียนภายในชุมชน
ซึ่งในปี 2564 ทางบริษัทได้ทำการส่งมอบเครื่องจักรกลการเกษตรไปแล้วทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 71 กลุ่ม และ ในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2565 ทางบริษัทมีแผนการส่งมอบเครื่องจักรกลการเกษตรรวมทั้งหมด 52 กลุ่มสำหรับเครื่องจักรกลการเกษตร ที่เราสนับสนุนแก่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มออมทรัพย์เกษตรยั่งยืนบ้านศรีเจริญ ในครั้งนี้ ประกอบด้วย รถแเทรกเตอร์ รุ่น L5018 KIS +ใบมีดดันดิน FD 186F จำนวน 1 กัน อุปกรณ์ต่อพ่วง ผานบุกเบิก DP224F-Heavy Plus 2 จำนวน 1 ชุด ผานพรวน DH245-6F-HP จำนวน 1ชุด จอบหมุน RX183F จำนวน 1 เครื่อง เครื่องพ่นอเนกประสงค์ BS350 จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า รวม 882,000 บาท
ด้านแสวง ดาปะ ประธานกลุ่มฯ กล่าวอีกว่า จากที่ทางสยามคูโบต้าได้มอบรถแเทรกเตอร์ให้กับกลุ่มฯ ซึ่งทางกลุ่มก็จะนำไปเพื่อประกอบอาชีพด้านการเกษตร ทั้งทำไร่ ทำนาข้าว ปลูกฝ้ายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซึ่งได้มีสมาชิกร่วมกันปลูกฝ้ายเป็นผืนใหญ่ ใช้เนื้อที่ปลูกกว่า 24 ไร่ พร้อมกับปลูกไร่ขิงที่มีเนื้อที่กว่า 200 ไร่ ต่อปี ของสมาชิกในกลุ่ม ทั้งหมด 114 คน ซึ่งทุกคนในสมาชิกสามารถจองหรือนำไปใช้ได้ทุกคน ซึ่งทางกลุ่มก็จะได้จัดและวางระเบียบไว้ในการปฎิบัติต่อไป
