กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี รับรายงานสถานการณ์ส่งออก มูลค่าสูงสุด 271,173.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กำชับหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมกันรักษาความต่อเนื่องการเติบโต สร้างความเชื่อมั่นการจ้างงานภาคอุตสาหกรรมหลักและเอสเอ็มอี
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานสถานการณ์การส่งออกในภาพรวม จากกระทรวงพาณิชย์ ทั้งข้อมูลปี 2564 ที่มูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 271,173.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 17.1 และการประเมินการเติบโตในปี 2565 ที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.0-4.0
นายกรัฐมนตรีกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเพื่อรักษาความต่อเนื่องของการส่งออก ที่ขณะนี้กำลังได้รับปัจจัยสนับสนุน จากทั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ที่อุตสาหกรรมของหลายประเทศกำลังฟื้นตัว ความตกลง RCEP ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2565 ซึ่งความต่อเนื่องของการส่งออก จะสร้างความความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในภาพรวม เพราะเป็นภาคเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ และส่งผลไปถึงการจ้างงานทั้งในอุตสาหกรรมหลักและเอสเอ็มอี ที่เกี่ยวเนื่องในห่วงโซ่การผลิต
น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า นอกจากข้อมูลและการประมาณการของกระทรวงพาณิชย์แล้ว ปริมาณการการขนส่งสินค้าทางเรือในขณะนี้ ก็แสดงให้เห็นสัญญาณบวกของการส่งออก โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือ ณ ท่าเรือหลักของประเทศ ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือกรุงเทพ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข่าวน่าสนใจ:
ซึ่งไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.-ธ.ค.2564) มีเรือเทียบท่าที่ท่าเรือทั้ง 2 แห่ง รวม 3,721 เที่ยว เพิ่มขึ้น 13.10 % สินค้าผ่านท่า 14.60 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.02 % และตู้สินค้าผ่านท่า 2.44 ล้าน ที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 5.78 % ซึ่ง กทท.ประเมินว่า การส่งออกสินค้าปีนี้จะขยายตัว 4 % ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ลดลง และปริมาณการขนส่งทางเรือดีขึ้นตามลำดับ
“นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เพื่อพิจารณาถึงแนวนโยบายที่จะสนับสนุนให้แต่ละภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจฟื้นฟู จากผลกระทบของโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการบริโภค การท่องเที่ยว การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งในส่วนการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีท่านกำชับให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลให้เกิดความต่อเนื่อง หากทุกส่วนฟื้นตัวได้จะส่งผลสำคัญต่อความเชื่อมั่น เกิดการจ้างงาน ประชาชนมีงานทำ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: