เชียงราย-อ.พานผู้สูงอายุฉีดวัคซีนโควิดเสียชีวิต สสจ.เชียงรายชี้วัคซีนเข็มสามจำเป็นควรให้หมอตรวจประเมินกับหมอก่อนฉีด
วันที่ 21 ก.พ.2565 บริเวณวัดเกตุแก้ว อ.พาน จ.เชียงราย ได้มีการสวดอภิธรรมศพนางสมร ปัญญาชัย อายุ 77 ปี เป็นผู้สูงอายุเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด กระตุ้นทั้ง 2 เข็มเป็นแอสตร้าเซนเนก้า ต่อมาได้ฉีดกระตุ้นเข็นที่ 3 ไฟเซอร์ โดยต่อมาเริ่มมีอาการไข้ขึ้นสูง ท้องเสีย และอาเจียน จนกระทั้งมาเสียชีวิต น้องสาวผู้ตายขอให้เป็นอุทาหรณ์ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวให้ระวัดระวังการฉีดกระตุ้นเข็มสาม
นางสมสร ปัญญาชัย น้องสาวผู้ตายเปิดเผยว่า ก่อนหน้านั้นผู้ตายเคยฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามาแล้วสองเข็ม ผู้ตายมีความกังวลเกี่ยวกับโรคโควิด จึงอยากฉีดบูสเตอร์เข็มสามไฟเซอร์ ในวันที่ 17 ก.พ.65 ต่อมาวันที่ 18 กพ.65 ตอนตีสองมีอาการไข้ขึ้นสูง ท้องเสีย จึงเรียกรถฉุกเฉินมารับไปโรงพยาบาลพาน พอไปตรวจไม่พบอะไร หมอจึงให้กลับบ้านรอดูอาการ แต่อาการไม่ดีขึ้น เริ่มมีอาการถ่ายเหลว ได้แต่รอดูอาการ ให้ผู้ป่วยกินน้ำ แต่ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งเวลา 02.00 น.ของวันที่ 19 ก.พ.65 ได้เสียชีวิต โดยทางญาติได้เรียกรถพยาบาลมาแต่ไม่ทัน จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่า ใครที่คิดว่าฉีดวัคซีนกระตุ้น หรือผู้มีโรคประจำตัวต้องพิจารณาก่อน หากพลาดแล้วเอาคืนมาได้เหมือนชีวิตพี่สาวของตน จึงอยากฝากครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ
ทางด้าน นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นต้องรอผลการชันสูตรศพจากแพทย์นิติเวชก่อน แต่กรณีที่มีการไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลพานแล้วแพทย์ไม่รับแอดมิท ตนจะขอสอบสวนด้วยตนเองอีกครั้ง ว่าเป็นเพราะเหตุใดถึงไม่รับแอดมิท อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนเข็มที่สาม ยังจำเป็นตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวยิ่งจำเป็นรับวัคซีนให้ครบสามโดส ควรให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยว่าควรใช้วัคซีนสูตรใด ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตต้องรอดูผลการชันสูตร แต่อย่างไรก็ตามญาติสามารถไปยื่นคำร้องรับเงินช่วยเหลือเยียวยาโดยไม่มีผลชันสูตรจำนวน 4 แสนบาทโดยทางคณะกรรมการ สปสช.จะเป็นผู้พิจารณา
ข่าวโดย : นราธิป เนตรคำ
